3 สินทรัพย์น่าลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัยในสมัยที่ 2

3 สินทรัพย์น่าลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัย!
Table of Contents

ประกาศผลไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ปรากฏว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรค Republican สามารถคว้าชัยได้สำเร็จ ด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 294 เสียง ในขณะที่กมลา แฮร์ริส จากพรรค Democratic ได้คะแนนเสียงไป 223 เสียง ซึ่งนี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งที่ 2 ของโดนัลด์ ทรัมป์ ในการมาเยือนทำเนียบขาวค่ะ 

ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนมาส่อง 3 สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีสินทรัพย์ไหนเข้าตาบ้าง และนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากแค่ไหน เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถปรับพอร์ตลงทุนได้อย่างทันท่วงที ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันค่ะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด อีกทั้งการลงทุนต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ

การเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ

ที่มารูปภาพ : NPR

“สโลแกน Make American Great Again ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ หวนคืนตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ”

ในที่สุดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ก็ได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ ผลปรากฏว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรค Republican สามารถเอาชนะกมลา แฮร์ริส จากพรรค Democratic ได้สำเร็จ ซึ่งนี่ถือเป็นการหวนคืนตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของโดนัลด์ ทรัมป์ค่ะ

สำหรับสโลแกนสำคัญที่ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถกวาดชัยชนะได้อย่างถล่มทลาย นั่นก็คือ สโลแกน Make American Great Again หรืออเมริกาต้องมาก่อน ซึ่งนี่ถือเป็นสโลแกนที่ตรงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวอเมริกันเชื้อสายละตินค่ะ และอย่างที่เราทราบกันดีว่า ในปัจจุบัน สหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาผู้อพยพล้นเมือง ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ให้ความคิดเห็นตรงกันว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเป็นความหวังในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมอเมริกาในเวอร์ชันที่แตกต่างออกไปได้

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่แค่ชาวอเมริกันที่กำลังจับตามองทิศทางการบริหารประเทศของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกเองก็ยังคงจับตามองการบริหารที่ว่า “อเมริกาต้องมาก่อน” ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไรบ้าง บทความนี้จะไปหาคำตอบกันค่ะ

โดนัลด์ ทรัมป์ นโยบายเด่น มีอะไรบ้าง?

โดนัลด์ ทรัมป์ นโยบายเด่น มีอะไรบ้าง?

เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า “อเมริกาต้องมาก่อน” โดยการนำเสนอนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ซึ่งบางนโยบายเป็นการสานต่อนโยบายเดิมที่เขาเคยให้คำสัตย์ไว้ จนทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเทคะแนนเสียงให้เขาอย่างล้นหลาม ดังนั้น ในบทความนี้ คุณน้าจะมาสรุป 5 นโยบายที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ยุติสงครามยูเครน

ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้มีนโยบายสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย ทำให้สหรัฐฯ ใช้งบประมาณในการสนับสนุนสงครามค่อนข้างมาก ด้วยเหตุนี้เอง ในระหว่างช่วงเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้งบประมาณของทางการสหรัฐฯ และได้นำเสนอนโยบายที่จะยุติสงครามยูเครน โดยได้เสนอว่า หากเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะยุติสงคราม ภายใน 24 ชั่วโมง ประกอบกับให้สหรัฐฯ ถอยห่างจากความขัดแย้งของประเทศอื่นให้มากขึ้นค่ะ 

อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เคยให้รายละเอียดเกี่ยวกับการยุติสงครามยูเครนอย่างชัดเจน ซึ่งนักวิเคราะห์หลาย ๆ คนให้ความคิดเห็นว่า คงจะเป็นเรื่องยากที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนจะยอมถอยออกจากสงครามที่ใช้เวลายืดเยื้อมามากกว่า 2 ปี

2. ไม่สั่งห้ามการยุติการตั้งครรภ์

โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้สั่งห้ามการยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งประเด็นนี้ ถือเป็นประเด็นที่ขัดกับความต้องการของผู้สนับสนุนบางส่วนค่ะ เนื่องจากท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ดูแตกต่างออกไปจากสมัยแรกที่เขาดำรงตำแหน่ง เพราะในปี 2022 โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอชื่อผู้พิพากษาศาลสูงสุด 3 คน ซึ่งต่อมา ได้มีบทบาทสำคัญในการยกเลิกสิทธิการทำแท้งออกไปค่ะ

ระหว่างการปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอว่า แต่ละรัฐควรมีเสรีภาพในการกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับการทำแท้งได้ด้วยตนเอง ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ให้ข้อเสนอแนะใด ๆ เกี่ยวกับสิทธิการห้ามทำแท้งเพิ่มเติม ซึ่งมีนัยสำคัญว่า กฎหมายการทำแท้งของสหรัฐฯ อาจถูกยุติลงหรือไม่ก็ได้ค่ะ

3. ยกเลิกกฎระเบียบสิ่งแวดล้อม

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เขาจะยกเลิกนโยบายของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในเรื่องของการสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียน เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ เชื่อว่า “โลกร้อนเป็นเรื่องหลอกลวง” โดยเขาสนับสนุนการขุดเจาะน้ำมันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนโยบายนี้ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโลกขั้นรุนแรง

4. ตั้งภาษีศุลกากรใหม่

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำเสนอนโยบายทางการค้าจากการสานต่อแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ เมื่อเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก ซึ่งทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า เขาจะยุติภาวะเงินเฟ้อและทำให้ราคาสินค้าในสหรัฐฯ ถูกลงอีกครั้ง

นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอให้ยกเลิกภาษีการจ่ายประกันสังคมและลดภาษีนิติบุคคลลง อีกทั้งยังเสนอให้เก็บภาษีศุลกากรใหม่ สำหรับภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งจะเก็บภาษีจากจีนเพิ่มขึ้นกว่า 60% และเก็บภาษีจากประเทศอื่นกว่า 10% เพื่อลดการขาดดุลทางการคลังและลดการก่อหนี้ในสหรัฐฯ

5. เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย

นโยบายสำคัญที่ทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับความนิยมในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย ก็คือ การเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายออกจากสหรัฐฯ และเดินหน้าสร้างกำแพงปิดผนึกชายแดนให้เรียบร้อย หลังจากช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา มีผู้อพยพได้หลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ส่งผลกระทบต่อภาครัฐเป็นวงกว้าง ด้วยเหตุนี้เอง ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่จึงให้ความไว้วางใจกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่านโยบายของกมลา แฮร์ริส

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ให้ความคิดเห็นว่า สหรัฐ ฯ อาจได้รับผลกระทบด้านโลจิสติกส์และปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคตค่ะ

เปิดฝ่ายครม. ชุดใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์

เปิดฝ่ายครม. ชุดใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์

หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้หวนคืนตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้ประกาศการแต่งตั้งฝ่ายครม. ชุดใหม่ของเขา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งรายชื่อที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นรายชื่อที่มีการคาดการณ์ว่า จะได้นั่งเก้าอี้ครม. ในรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 โดย 10 รายชื่อจะมีใครบ้าง? คุณน้าจะมาสรุปให้อ่านกันค่ะ

รายชื่อตัวเต็งฝ่ายครม. ของโดนัลด์ ทรัมป์ตำแหน่ง
ซูซี ไวลส์หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
มาร์ก เปาเล็ตตารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ทอม โฮแมนรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
มาร์โก รูบิโอรัฐมนตรีต่างประเทศ
แคช ปาเทลหัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง (CIA)
โรเบิร์ต โอไบรอันรัฐมนตรีกลาโหม
อีลีส สเตฟานิกเอกอัครราชทูตประชาชาติ (UN)
คริสตี โนเอม หรือดัก เบิร์กกัมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
คาโรลีน เลวิตต์โฆษกทำเนียบขาว
อีลอน มัสก์กระทรวงส่งเสริมประสิทธิภาพของรัฐบาล

สำหรับรายชื่อผู้ดำรงตำแหน่งครม. ของรัฐบาลในยุค โดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้นะคะ เนื่องจากเป็นเพียงรายชื่อที่คาดว่าจะได้นั่งเก้าอี้คณะรัฐมนตรีเพียงเท่านั้น


ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 จะเป็นอย่างไร?

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ในระยะสั้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1. ผลกระทบด้านการส่งออกสินค้า และ 2. ผลกระทบด้านการลงทุน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ผลกระทบด้านการส่งออกสินค้า

SCB EIC ได้วิเคราะห์ว่า จากนโยบายกีดกันทางการค้าและการตั้งภาษีศุลกากรใหม่จะทำให้มูลค่าส่งออกของไทยในปี 2025 ลดลงประมาณ 0.8-1.0% ค่ะ โดยเฉพาะกับสินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจะมีแนวโน้มส่งออกหดตัวลง

ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ประเทศอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ จะเก็บภาษีนำเข้าจากจีนสูงถึง 60% เป็นเหตุให้จีนจำเป็นต้องหาตลาดอื่นมาทดแทนค่ะ ซึ่งสินค้าจากจีนเสี่ยงทะลักเข้ามาในไทย จนส่งผลกระทบให้ผู้ผลิตในไทยอาจจะเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น

2. ผลกระทบด้านการลงทุน

สำหรับผลกระทบด้านการลงทุน SCB EIC ได้วิเคราะห์ต่ออีกว่า ธุรกิจภาคเอกชนมีแนวโน้มหดตัวลงจากเดิมค่ะ อีกทั้ง Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติอาจย้ายฐานการผลิตกลับไปลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น

จากผลกระทบที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยอาจจะได้รับผลกระทบในระยะสั้น แต่ในระยะปานกลางไปจนถึงระยะยาวนั้น SCB EIC ได้วิเคราะห์เพิ่มเติมว่า สงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้น ไทยอาจจะได้รับผลประโยชน์มากกว่า ในกรณีที่ไทยสามารถรักษาบทบาทความเป็นกลางจากการแบ่งขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจได้ค่ะ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์หลาย ๆ คน ให้ความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ไทยควรเตรียมรับมือ ทั้งนโยบายเชิงรุกและเชิงรับไปพร้อม ๆ กัน

ยกตัวอย่างเช่น บางอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานสูงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ไทยควรมีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันผลประโยชน์ของประเทศให้ได้มากที่สุด

สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ มีอะไรบ้าง?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า “นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน” ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมาก แล้วอย่างนี้ มีสินทรัพย์ประเภทไหนน่าลงทุนบ้าง ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยกันค่ะ โดยคุณน้าขอยกตัวอย่าง 3  สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น

หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง นักเศรษฐศาสตร์หลายคน ให้ความคิดเห็นว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น (Bond Yield) มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้น เนื่องจากเงินดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า โดยคาดการณ์จากการใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มว่า เงินเฟ้อจะสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบให้เฟด (FED) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

ดังนั้น นักเศรษฐศาสตร์หลาย ๆ คน จึงแนะนำให้เก็บพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น เพราะจะช่วยปรับพอร์ตลงทุนให้มีความสมดุลมากขึ้น ในขณะที่ตลาดมีความผันผวน อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี ในช่วงเงินเฟ้ออีกด้วยค่ะ

2. หุ้นสหรัฐฯ

สินทรัพย์เด่นในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อมาก็คือ หุ้นสหรัฐฯ ค่ะ เพราะดัชนี ดัชนี S&P 500, ดัชนี NASDAQ และดัชนี Russell 2000 อยู่ในแนวโน้มตลาดขาขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวในทิศทางบวกตามไปด้วย โดยเฉพาะกับหุ้น Tesla มีการปรับตัวสูงขึ้น หลังจากอีลอน มัสก์ ได้ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกระทรวงส่งเสริมประสิทธิภาพของรัฐบาล ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในตัวอีลอน มัสก์ ประกอบกับแผนเศรษฐกิจตามนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 เกี่ยวกับการตั้งภาษีศุลกากรใหม่และการลดภาษีนิติบุคคล ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตัวเป็นบวกติดต่อกัน อย่างไรก็ดี สำหรับหุ้นในตลาดเกิดใหม่ยังคงได้รับผลกระทบและผันผวนอยู่ค่อนข้างสูงค่ะ

ดังนั้น สำหรับการจับจังหวะการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนอาจจะเน้นไปที่กลยุทธ์ Follow Buy และเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบระยะสั้น พร้อม ๆ กับเทคนิค Buy on Dip เพราะนักลงทุนคาดหวังการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก

3. สกุลเงินดิจิทัล

สินทรัพย์เด่นในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ อันดับสุดท้าย คือ สกุลเงินดิจิทัลค่ะ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง Bitcoin ทะลุ 93,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการทำ New High ในรอบที่ 4 และคาดการณ์ว่า จะทำ New High ใหม่อีกครั้ง หลังโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าพิธีสาบานตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคม ปี 2025 ที่จะถึงนี้ค่ะ

📢 ข้อควรระวัง

แม้ว่า สินทรัพย์ที่กล่าวไปข้างต้น จะเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์จากการชนะเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่อย่างไรก็ดี ทุกสินทรัพย์ล้วนมีความเสี่ยงนะคะ ดังนั้น นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อม ๆ กับกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยัง Emerging Market (ตลาดของประเทศที่กำลังพัฒนา) อย่างอินเดียหรือเวียดนาม เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และที่สำคัญ คือ เพื่อให้การลงทุนของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเองค่ะ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสินทรัพย์น่าลงทุน

นโยบายสำคัญในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 มีอะไรบ้าง?

  1. ยุติสงครามยูเครน
  2. ไม่สั่งห้ามการยุติการตั้งครรภ์
  3. ยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
  4. ตั้งภาษีศุลกากรใหม่
  5. เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย

สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ มีอะไรบ้าง?

  • พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น
  • หุ้นสหรัฐฯ
  • สกุลเงินดิจิทัล

หุ้นสหรัฐฯ ที่น่าสนใจ มีตลาดไหนบ้าง?

หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ราคาหุ้นสหรัฐฯ มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนเป็นบวกค่ะ ซึ่งหุ้นสหรัฐฯ ที่น่าสนใจมีหลายตลาดให้เลือกลงทุน ไม่ว่าจะเป็นดัชนี S&P 500, NASDAQ และดัชนี Russell เป็นต้น


สรุป สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคโดนัลด์ ทรัมป์

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกเป็นอย่างมาก เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลต่อประเทศอื่นทั่วโลก ซึ่งสินทรัพย์เด่นที่น่าลงทุนในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ คงหนีไม่พ้นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ, หุ้นสหรัฐฯ และสกุลเงินดิจิทัลค่ะ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นเองค่ะ

ดังนั้นแล้ว นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุนให้ล้อกับความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะนโยบายของสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้มากขึ้น และสุดท้ายนี้ อย่าลืมกระจายความเสี่ยงในการลงทุนด้วยนะคะ เพราะไม่ว่าสินทรัพย์ไหน ๆ ก็มีความเสี่ยงทั้งสิ้นค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : BBC, Eastspring และ The Bangkok Insight


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
3 สินทรัพย์น่าลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัย!
3 สินทรัพย์น่าลงทุน หลังโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัยในสมัยที่ 2

คุณน้าจะพาทุกคนมาส่อง 3 สินทรัพย์น่าลงทุนในยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีสินทรัพย์ไหนเข้าตาบ้าง และผลกระทบของเศรษฐกิจไทยจะรุนแรงมากแค่ไหน เพื่อให้ทุกคนสามารถปรับพอร์ตลงทุนได้อย่างทันท่วงที

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งไม่มีมีข่าวสำคัญ สำหรับวันนี้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปที่บริเวณ 2,660-2,670 ดอลลาร์

รีวิว Titan FX เปิดทุกคุณสมบัติที่ควรรู้
รีวิว Titan FX เปิดทุกคุณสมบัติที่ควรรู้ ปี 2024

กลับมาพบกับคุณน้ารีวิวกันอีกแล้วนะคะ ในวันนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปอ่านรีวิวโบรกเกอร์ Titan FX ในทุกคุณสมบัติที่เทรดเดอร์ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาต, ประเภทบัญชี, ค่าสเปรด, การฝากถอนเงิน รวมถึงจุดเด่นและจุดแข็งของ Titan FX กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันเลย!