REIT คืออะไร? ลงทุนอย่างไรให้ยั่งยืน

REIT คืออะไร?
Table of Contents

ในยุคที่ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง จะมีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาวหรือไม่? คุณน้าขอบอกว่า มีค่ะ โดยหลาย ๆ คนคงรู้จักกับตราสารหนี้หรือกองทุนรวมทางการเงินกันไปแล้ว ในวันนี้คุณน้าจะพาทุกคนมารู้จักกับประเภทการลงทุนที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT นั่นเองค่ะ ซึ่ง REIT คืออะไร? มีคุณสมบัติเด่น ๆ และข้อที่ควรรู้อะไรบ้าง? ในวันนี้คุณน้าได้รวบรวมทุกเรื่องที่คุณควรรู้มาไว้ให้แล้ว ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนการลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


REIT คืออะไร?

REIT ถูกย่อมาจาก Real Estate Investment Trust คือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยลักษณะเด่นของ REIT จะเป็นการระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน เพื่อนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีผลตอบแทนสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน และคลังสินค้า เป็นต้น ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล เมื่ออสังหาริมทรัพย์ที่คุณลงทุนมีรายได้นั่นเอง

แล้วอย่างนี้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จะแตกต่างจากหุ้นอสังหาริมทรัพย์ไหม? คุณน้าขอบอกว่ามีความแตกต่างกันนั่นก็คือ นักลงทุนสามารถลงทุน REIT ด้วยเงินทุนที่น้อยกว่าการลงทุนหุ้นอสังหาริมทรัพย์ค่ะ อีกทั้ง REIT ยังมีความผันผวนที่ต่ำกว่าอีกด้วย เพราะ REIT จะได้รับรายได้จากการเช่าเป็นหลัก ทำให้อัตราผลตอบแทนจะเป็นเงินปันผลที่สม่ำเสมอ เนื่องจากกระดานการซื้อขายจะไม่ผันผวน ทำให้นักลงทุนจะมองการลงทุน REIT ในระยะยาว

เกร็ดความรู้! รายได้ของ REIT เกิดจากอะไรบ้าง?

รายได้จาก REIT มาจากการเก็บค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนไป ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, อาคาร, คลังสินค้า หรือแม้แต่สถานที่จัดงาน ซึ่ง REIT จะจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนอยู่ที่ 5-7% ต่อปีเลยทีเดียว

หลักการทำงานของ REIT เป็นอย่างไร?

“ REIT จะมีการซื้อขายเสมือนกับหุ้นตัวหนึ่ง โดยนักลงทุนสามารถจองการซื้อได้ผ่านผู้จัดการกองทรัสต์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ”

หลักการทำงานสำคัญของ REIT นั่นก็คือ การระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไปผ่านการขายหน่วยทรัสต์ โดยจะมีผู้จัดการกองทรัสต์ทำหน้าที่ดูแลบริหารจัดการกองทุนและนำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่รายได้ประจำในรูปแบบเช่า ซึ่ง REIT อาจจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีรูปแบบเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือลงทุนในสิทธิเช่า จากนั้น REIT จะนำอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ ไปปล่อยเช่า เพื่อให้มีรายได้ประจำจึงจะจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนนั่นเอง

เรียกได้ว่า REIT ถือเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบทางอ้อม ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้ดี อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนจำนวนมากก็สามารถลงทุนได้ อีกทั้ง REIT ยังให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอและมีสภาพคล่องสูงอีกด้วย

ทำไมบริษัทมีการขายอสังหาริมทรัพย์เข้า REIT

การที่บริษัทขายสินทรัพย์เข้า REIT เพราะบริษัทต้องการเงินลงทุนจากการขายหน่วยลงทุน เพื่อต้องการขยายกิจการ, ปรับปรุงโครงการให้ดีมากขึ้น, ใช้เป็นเงินหมุนเวียน หรือแม้แต่การชำระหนี้สินให้กับบริษัท เป็นต้น

ประเภทของกอง REIT มีอะไรบ้าง?

กอง REIT สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

ความหมาย
Freeholdกองทุนที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นเจ้าของ ซึ่งลักษณะของกอง REIT ประเภท Freehold คือ ผู้ถือหน่วยลงทุนจะมีกรรมสิทธิ์เต็มที่ในอสังหาริมทรัพย์ที่นำไปลงทุนค่ะ ซึ่งในกรณีที่กองทุนมีการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีมูลค่าสูงกว่าตอนที่กองทุนทำการเข้าซื้อ นั่นจะแสดงว่าผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
Leaseholdกองทุนที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบการเช่า ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนไปเหมือน Freehold ค่ะ เพราะเป็นการลงทุนเช่าสัญญากับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ เมื่อสัญญาครบกำหนด กอง REIT ต้องคืนอสังหาริมทรัพย์ให้กับเจ้าของ ซึ่งนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในช่วงที่สัญญากำหนดเท่านั้น

สำหรับการจ่ายผลตอบแทนจะมาในรูปแบบของเงินปันผลจากการปล่อยเช่านั่นเอง

🔍 Freehold VS Leasehold มือใหม่ลงทุนอันไหนดีกว่ากัน?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่ากอง REIT ประเภท Freehold และ Leasehold มีความแตกต่างกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเภทมีลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน แต่ถ้าถามว่านักลงทุนมือใหม่ควรเลือกลงทุนในกอง REIT อันไหนดี? คุณน้ามองว่า กอง REIT ประเภท Freehold มีความน่าสนใจมากกว่าค่ะ เนื่องจากสามารถดูอัตราเงินปันผลได้เลย เพราะว่าผู้ถือหน่วยลงทุนมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์และสามารถได้รับผลตอบแทนบนสินทรัพย์แบบไม่มีกำหนดอีกด้วย อย่างไรก็ดี นักลงทุนมือใหม่ควรศึกษาข้อควรรู้เกี่ยวกับกอง REIT ให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ เพราะการลงทุนล้วนมีความเสี่ยงค่ะ


10 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนกอง REIT

คุณน้าได้รวบรวม 10 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนกอง REIT โดยมีรายละเอียดตามตารางด้านล่างนี้

การก่อตั้งสัญญากองทรัสต์เป็นไปตามพ.ร.บ. ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. 2550
ขนาดของกองทรัสต์การเสนอขายหน่วยทรัสต์ ≥ 500 ล้านบาท
จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุนหลังเสนอขาย IPO≥ 250 ราย
การซื้อขายหน่วยทรัสต์หน่วยทรัสต์ต้องจดทะเบียนใน SET
ผู้จัดการกองทุนทรัสต์บริษัทหลักทรัพย์ที่มีการจัดการกองทุนรวมหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. เป็นผู้กำหนด
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศกอง REIT สามารถลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทำได้ไม่เกิน 10% ของสินทรัพย์รวม
ประเภทสินทรัพย์ที่ REIT ลงทุนได้อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่ไม่มีข้อพิพาทใดๆ ต่อการจัดหาประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ อสังหาริมทรัพย์ที่พร้อมจัดสรรประโยชน์  ≥ 75% ของมูลค่าหน่วยลงทุนทั้งหมดที่มีการเสนอขาย (รวมเงินกู้ยืม) อสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยมูลค่าของเงินลงทุนที่จะนำไปพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้แล้วเสร็จจะต้องไม่เกิน 10% ของทรัพย์สินรวมของอสังหาริมทรัพย์ และจะต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
การกู้ยืมกองทรัสต์สามารถนำสินทรัพย์ไปเป็นหลักประกันได้ โดยต้องมี Investment Grade Rating กู้ยืม ≤ 60% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม
การจ่ายผลตอบแทน≥ 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว

REIT เสียภาษีไหม?

REIT ต้องเสียภาษีไหม 2567

สำหรับนักลงทุนทั่วไปจะได้รับการยกเว้นในการเสียภาษี กรณีได้รับกำไรจากการขายหน่วยลงทุน ส่วนการได้รับเงินปันผลก็ไม่จำเป็นต้องเสียภาษี เพราะ REIT จะต้องหัก ณ ที่จ่าย 10% ของรายได้จากเงินปันผลค่ะ


ข้อดี-ข้อควรระวังของกอง REIT

ข้อดี

  • กระจายความเสี่ยงได้ดี
  • ผลตอบแทนระยะยาวและมีความผันผวนต่ำ
  • ไม่ต้องลงเงินทุนจำนวนมาก
  • ได้รับผลตอบแทน 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว
  • มีผู้จัดการกองทรัสต์ในการเข้ามาดูแลบริหารจัดการกองทุน
  • สภาพคล่องสูง

ข้อควรระวัง

  • ความเสี่ยงจากการบริหารจัดการ
  • ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ
  • ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย

วิธีการเลือก REIT อย่างไรให้ยั่งยืน?

วิธีการเลือกลงทุนกอง REIT อย่างไรให้ยั่งยืน สำหรับมือใหม่

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการเลือก REIT อย่างไรให้ยั่งยืน? คุณน้าขอแนะนำ 5 วิธีการเลือกกอง REIT โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ศึกษาอัตราผลตอบแทน

มาเริ่มกันที่ การศึกษาอัตราผลตอบแทน โดยปกติแล้ว กอง REIT จะจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนปีต่อปี ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาว่า อัตราผลตอบแทนที่กอง REIT จ่ายในปีก่อน ๆ มีความเหมาะสมไหม เพื่อพิจารณาอัตราผลตอบแทนและหน่วยลงทุนที่กอง REIT เสนอขายว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่

2. ดูผลประกอบการของกอง REIT 

มาต่อกันที่วิธีการเลือก REIT อย่างไรให้ยั่งยืนข้อที่ 2 คือ การดูผลประกอบการในอดีตของกอง REIT ว่ามีกำไรหรือไม่ โดยจะพิจารณาจากงบการเงิน, สัดส่วนหนี้สิน, อัตราการเช่าเฉลี่ย* (Occupancy Rate) และประวัติการจ่ายปันผล เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ในอนาคตได้ว่า กองทุนจะจ่ายเงินปันผลอยู่ที่เท่าไหร่

  • หากอัตราการเช่าเฉลี่ยสูง เท่ากับว่ากอง REIT มีศักยภาพในการรับรายได้สูง
  • หากอัตราการเช่าต่ำ เท่ากับว่ากอง REIT มีศักยภาพในการรับรายได้ต่ำ

3. การพิจารณาทำเลและศักยภาพในการสร้างรายได้ของอสังหาริมทรัพย์

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กอง REIT สามารถไปต่อได้นั่นก็คือ การพิจารณาทำเลและศักยภาพในการสร้างรายได้ของอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ ค่ะ เพราะการศึกษาทำเลจะทำให้เห็นว่า อสังหาริมทรัพย์ที่คุณเลือกลงทุนนั้น มีคู่แข่งและอุปทานล้นตลาดหรือไม่ เพื่อคาดการณ์อัตราการขึ้นค่าเช่าในอนาคตนั่นเอง

4. การศึกษาประเภทของกอง REIT ที่คุณสนใจ

จากที่คุณน้าได้กล่าวไปก่อนหน้านั้นเกี่ยวกับประเภทของกอง REIT ว่ามี 2 ประเภท ได้แก่ Freehold และ Leasehold ใช่ไหมคะ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 ประเภทก็มีคุณสมบัติเด่น ๆ ที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • หากคุณเลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Freehold : คุณจะได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อที่ดินรอบ ๆ มีการพัฒนาและมีมูลค่าสูงขึ้น หรือแม้แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในอนาคต หากกอง REIT ประเภท Freehold มีการขายสินทรัพย์ออกไปจะส่งผลให้นักลงทุนสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนมากขึ้น
  • หากคุณเลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภท Leasehold : คุณจะต้องรู้ว่าในอนาคต มูลค่าของกองทุนนี้จะลดลง เนื่องจากเป็นสัญญาเช่าที่มีระยะเวลากำหนดชัดเจน ทำให้อัตราเงินปันผลของการลงทุนประเภท Leasehold จะสูงกว่าประเภท Freehold เพราะเป็นเหมือนการจ่ายคืนเงินต้นนั่นเอง

5. ผู้จัดการกองทรัสต์มีความสามารถในการบริหารจัดการหรือไม่?

มาต่อกันที่วิธีการเลือกกอง REIT ขั้นตอนสุดท้าย คือ การพิจารณาความสามารถของผู้จัดการกองทรัสต์ค่ะ เพราะการบริหารจัดการจะส่งผลต่อมูลค่าและรายได้ของกองทุนในอนาคต อีกทั้งยังส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนอีกด้วยค่ะ


ลงทุน REIT ยังไง?

สำหรับนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นบนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่แล้ว คุณสามารถซื้อ REIT ได้ที่บัญชีเดียวกันได้เลยค่ะ ส่วนนักลงทุนมือใหม่ก็สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ได้กับบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ โดยการซื้อขาย REIT จะเหมือนกับการซื้อขายหุ้น เพราะมีระยะเวลาซื้อขายเหมือนตลาดหุ้นทั่วไปเลยค่ะ ซึ่ง REIT จะอยู่ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างหรือหมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

“ในปัจจุบันกอง REIT มีทั้งหมด 60 หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย”

นอกจากนี้ นักลงทุนหลาย ๆ คนคงสงสัยว่า กอง REIT ลงทุนในกองทุนรวมได้ไหม? คุณน้าขอตอบว่า ได้ค่ะ เพราะมีกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนใน REIT หลายกองทุนด้วยกัน ซึ่งแต่ละกองทุนก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน เช่น เน้นลงทุน REIT เฉพาะในประเทศ หรือบางกองทุนก็สามารถลงทุนได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น

กอง REIT ปันผลสูง ปี 2567

คุณน้าขอยกตัวอย่าง 10 กอง REIT ปันผลสูง ปี 2567 โดยจะเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์มาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทำให้กลุ่มค้าปลีกและโรงแรมมีความน่าสนใจค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

กอง REITประเภทอัตราเงินปันผลตอบแทน (%)การจ่ายปันผล
(บาท/หุ้น)
FTREIT Freehold & Leasehold7.31%0.1870 บาท
WHARTFreehold & Leasehold8.01%0.1915 บาท
LPFFreehold & Leasehold6.84%0.2155 บาท
AIMIRTFreehold & Leasehold6.05%0.2867 บาท
IMPACTFreehold5.14%0.10 บาท
WHAIRLeasehold9.28%0.1372 บาท
CPNREITFreehold & Leasehold6.97%0.3618 บาท
LHHOTELFreehold & Leasehold6.56%0.30 บาท
BAREITFreehold5.68%0.1810 บาท
ALLYFreehold & Leasehold14.41%0.1310 บาท


5 กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทรัสต์เพื่ออสังหาริมทรัพย์ (REIT)

  • KT-PIF-SSF : กองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดเพื่อการออม)
  • SCBPINP : กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดผู้ลงทุนกลุ่ม/บุคคล)
  • ASP-PROPIN-A : กองทุนเปิด แอสเซทพลัส อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน เฟล็กซิเบิ้ล ชนิดสะสมมูลค่า
  • KKP PROP : กองทุนเปิดเคเคพี พร็อพเพอร์ตี้ เซคเตอร์ ฟันด์
  • PRINCIPAL iPROP-A : กองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม-ชนิดสะสมมูลค่า


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ REIT คืออะไร?

REIT มีกี่ประเภท?

REIT มี 2 ประเภท ได้แก่ 1. Freehold คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และ 2. Leasehold คือ กองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นลักษณะให้เช่ากับเจ้าของ

REIT ลงทุนยังไง?

นักลงทุนสามารถลงทุน REIT ผ่านนายหน้าซื้อขายที่จดทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ โดยการซื้อขาย REIT จะเหมือนกับการซื้อขายหุ้นทั่วไป เพราะมีระยะเวลาในการซื้อขายนั่นเอง

กองทุน REIT ซื้อได้ที่ไหน?

สำหรับนักลงทุนที่สนใจซื้อกองทุน REIT สามารถซื้อได้ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่านนายหน้าได้โดยตรงค่ะ แต่สำหรับใครที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในกอง REIT


สรุป REIT คืออะไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT เป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ใช้เงินลงทุนที่น้อยกว่าและมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลจัดการกองทุนได้อย่างมืออาชีพ 

อย่างไรก็ดี การลงทุน REIT ก็มีความเสี่ยงและความท้าทายในการลงทุนเช่นเดียวกันค่ะ เนื่องจากลักษณะเด่น ๆ ของ REIT คือ การได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลหรือเป็นการรับกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ หากกองทุนไหนได้รายได้จากการเก็บค่าเช่าหรือขายหน่วยลงทุนได้เพิ่มมากขึ้น จะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่หากกอง REIT เลือกลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเลไม่ดี มีคู่แข่งเยอะ และผลประกอบการของบริษัทไม่ได้ ก็อาจจะส่งผลให้กอง REIT ขาดทุนได้เช่นกันค่ะ 

ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกกอง REIT คุณควรศึกษาเงื่อนไขและประเภทอสังหาริมทรัพย์ให้ดี เพราะแต่ละประเภทของอสังหาริมทรัพย์ก็มีความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังควรศึกษาสภาพเศรษฐกิจในช่วงนั้นด้วยนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Finnomena, SET, ก.ล.ต., ลงทุนแมน และกสิกรไทย


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งมีข่าวสำคัญจากสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปที่บริเวณ 2,645-2,647 ดอลลาร์ และเกิด QM ค่ะ

แนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
แนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส

คุณน้าจะขอแนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุนต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ไปกับตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะเริ่มต้นปี 2025 กันค่ะ

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 11 ธันวาคม 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 11 ธันวาคม 2567 By คุณน้าพาเทรด

สวัสดีสายเทรดทองทุกท่านนะคะ วันนี้มาติดตามวิเคราะห์ทองคำประจำวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2567 กันค่า วิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 33 ดอลลาร์