Passive Income คืออะไร ? 3 ประเภทสินทรัพย์ที่ควรลงทุน ?

Passive income คืออะไร
Table of Contents

ปัจจุบันเราต่างหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการเงินเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบมาจากปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลให้ USD อ่อนค่าลง ซึ่งเราต่างให้ความสำคัญกับค่าเงินดอลลาร์ เพราะเป็นค่าเงินประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจโลก เราจึงต่างวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่าย ดังนั้นจึงพยายามมองหาช่องทางทำรายได้หรือที่เรียกว่า Passive Income 

Passive Income คืออะไร?

Passive Income คือรายได้ที่เกิดจากเราลงทุนในช่วงแรก หลังจากนั้นเราจะได้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการที่เราจะสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุน อันดับแรกเราต้องทำความรู้จักประเภทของสินทรัพย์และความเสี่ยงการลงทุนที่แตกต่างกัน ปกติแล้วสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำมักจะมีความเสี่ยงต่ำกว่าสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงค่ะ  

การสร้าง Passive income โดยการลงทุน และจัดพอร์ตการลงทุนสไตล์ DCA 

การสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุน และมีการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ DCA หรือเป็นการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่ากันทุกเดือน โดยคุณน้าได้แบ่งการลงทุนได้ดังนี้ 

Passive Income  คืออะไร ? 3 ประเภทสินทรัพย์ที่ควร ?

1. กองทุน (Mutual Fund) คือรูปแบบการลงทุนที่มีการระดมทุนจากนักลงทุน หรือผู้ที่มีความสนใจ ในสินทรัพย์ที่สนใจ ซึ่งกองทุนมีให้เลือกหลากหลายประเภท มีตั้งแต่กองทุนตลาดเงินที่มีความเสี่ยงต่ำไปจนถึงกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งนักลงทุนควรวิเคราะห์ตนเองก่อนตัดสินใจเลือกกองทุนค่ะ 

2. หุ้น (Stock) คือการบอกสัดส่วนเป็นเจ้าของบริษัทของนักลงทุน ตามสัดส่วนที่ได้ลงทุน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือหุ้นทั่วไปและหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับเป็นเงินปันผลและการเพิ่มทุน ตามเงื่อนไขของบริษัท 

3. ตราสารหนี้ (ฺBond) คือตราสารการเงินที่มีผู้ถือหรือนักลงทุน เป็นเจ้าหนี้ ส่วนผู้ออกตราสารเป็นลูกหนี้ ซึ่งนักลงทุนได้รับผลตอบแทนได้รูปแบบอัตราดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ และจะได้รับเงินต้นคืนเมื่อถึงระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ตามเงื่อนไข ตัวอย่างตราสราหนี้ เช่น ตั๋วเงินคลัง, พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ เป็นต้น

ความแตกต่างระหว่าง Passive Inome และ Active Income

Active Income เป็นรายได้ที่เกิดจากการทำงาน ซึ่งเราต้องใช้เวลา และสุขภาพ ซึ่งถ้าหากวันใดเราไม่ได้ทำก็จะไม่มีรายได้ ถ้าหากต้องการเพิ่มรายได้ในส่วนนี้ ต้องมีการเพิ่มเวลาการทำงาน แต่ Passive Income คือการที่เราลงแรงทำไปในช่วงแรก และหวังผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว 

สรุป 

Passive Income คือการลงแรงทำไปในช่วงแรก และหวังผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว ซึ่งการสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุน ต้องทำความรู้จักสินทรัพย์ที่เราสนใจ หลังจากนั้นจึงทำการวางแผน โดยการจัดพอร์ตแบบ DCA หรือการลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมทุกเดือน นอกจากนี้ยังมีอีกช่องทางหนึ่งที่เป็นรายได้ประจำของเรา คือ Active Income ซึ่งถ้าหากเราต้องการรายได้ส่วนนี้เพิ่ม ต้องเพิ่มแรงและชั่วโมงการทำงาน แต่อย่างไรก็ตามทั้ง Passive Income และ Active Income ต่างก็เป็นช่องทางการทำรายได้ ซึ่งรายได้ทั้ง 2 ทางนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินเพิ่มมากขึ้น 


บทความในด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งมีข่าวสำคัญจากสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปที่บริเวณ 2,645-2,647 ดอลลาร์ และเกิด QM ค่ะ

แนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
แนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส

คุณน้าจะขอแนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุนต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ไปกับตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะเริ่มต้นปี 2025 กันค่ะ

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 11 ธันวาคม 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 11 ธันวาคม 2567 By คุณน้าพาเทรด

สวัสดีสายเทรดทองทุกท่านนะคะ วันนี้มาติดตามวิเคราะห์ทองคำประจำวันพุธที่ 11 ธันวาคม 2567 กันค่า วิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 33 ดอลลาร์