สำหรับโลกแห่งการลงทุนของเรา คงปฏิเสธไม่ได้กันนะคะว่า มีหลายเหตุผลและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาแต่ละตราสาร ไม่ว่าจะเป็น นโยบายทางการเงิน, ข่าว, เศรษฐกิจ, การเมือง และการนำเข้า-ส่งออก เป็นต้น ในวันนี้คุณน้าจะพาทุกคนมารู้จักอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อราคาตราสารในทุกตลาดได้ อย่าง Market Sentiment นั่นเองค่ะ
ว่าแต่ความหมายที่แท้จริงของ Market Sentiment คืออะไร? มีผลอย่างไรต่อตลาดการลงทุน? เราควรจะให้ความสนใจกับ Market Sentiment มากน้อยแค่ไหน? บทความนี้มีคำตอบค่ะ
คำนิยามของคำว่า Sentiment คืออะไร?
ในบริบทของตลาดการลงทุนนั้น “Sentiment” หมายถึงแนวทางความคิด และความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขายสินทรัพย์ทางการเงินค่ะ โดยเป็นความรู้สึกหรืออารมณ์โดยรวมที่นักลงทุนและเทรดเดอร์มีต่อตลาดนั้น ๆ ซึ่งในแต่ละตลาดการลงทุนก็จะมีมุมมองที่แตกต่างออกไป
⭐ ดังนั้น Market Sentiment คือ ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อตลาด โดยสามารถบ่งบอกได้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองต่อตลาดในทิศทางไหน
โดยปกติแล้ว Market Sentiment จะแบ่งมุมมองของตลาดออกเป็น 3 เทรนด์ ดังนี้ค่ะ
เชื่อว่าตลาดอยู่ในสภาวะขาขึ้น (Uptrend)
หากนักลงทุนหรือเทรดเดอร์มีความเชื่อมั่นสูงว่า สินทรัพย์จะมีราคาสูงขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มอยู่ในสภาวะขาขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 4 ปี นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่เกิดการ Halving ค่ะ เนื่องจากรางวัลจากการขุดบิตคอยน์จะลดลงครึ่งหนึ่ง แต่มูลค่าของบิตคอยน์นั้นเท่าเดิม ทำให้ความต้องการหรืออุปสงค์นั้นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นนั่นเองค่ะ
เชื่อว่าตลาดอยู่ในสภาวะขาลง (Downtrend)
หากนักลงทุนแสดงถึงความกังวล โดยคาดการณ์ว่า ราคาสินทรัพย์จะมีราคาลดลงในอนาคต อาจทำให้ราคาสินทรัพย์นั้น ๆ มีแนวโน้มอยู่ในสภาวะขาลงได้เช่นกันค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น หุ้นไทย มีแนวโน้มติดลบในรอบ 10 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยยังคงมีโมเดลที่คล้ายเดิม คือ เน้นพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังไม่เติบโตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะไม่เติบโตเท่าที่ควร แต่มีสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่ราคามีแนวโน้มสูงขึ้นนั่นก็คือ ทองคำ เพราะเมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนเกิดความกังวลต่อเศรษฐกิจ นักลงทุนจะหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นนั่นเอง
เชื่อว่าตลาดยังหาทิศทางไม่ได้ (Sideway)
ในกรณีนี้ เราจะเห็นได้เลยว่ากราฟจะไหลในแบบ Sideway ที่ค่อนข้างจะอึดอัดหัวใจสำหรับเทรดเดอร์หน่อย ๆ เพราะราคาจะวิ่งน้อยมาก ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า Sentiment ของตลาดจะยังคงหาทิศทางไปไม่ได้ ซึ่งอาจกำลังรอข้อมูลเพิ่มเติมหรือสัญญาณที่ชัดเจนก่อน (อย่างเช่น ข่าว) ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่า ตลาดอยู่ในเทรนด์ไหนค่ะ
โดยปกติแล้ว เทรดเดอร์และนักวิเคราะห์จะใช้เครื่องมือและตัวบ่งชี้ต่าง ๆ เพื่อวัดความเชื่อมั่นของตลาด เช่น แบบสำรวจ, ดัชนีความเชื่อมั่น, ข้อมูลการซื้อขาย Options และการวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้ามาช่วยเพื่อตัดสินใจว่า ทิศทางตลาดควรเป็นยังไง
*คำเตือน : ความเชื่อมั่นของตลาด หรือ Market Sentiment อาจไม่แน่นอนและผันผวนค่อนข้างมาก ซึ่งบางครั้งก็นำไปสู่ความสวิงของกราฟราคา ดังนั้น เทรดเดอร์อย่าลืมตั้ง TP และ SL อยู่เสมอนะคะ
ปกติแล้ว Market Sentiment มีผลมากน้อยแค่ไหน?
ต้องบอกเลยค่ะว่า ปกติแล้วเรามักจะเจอกับ Market Sentiment อยู่แล้ว เพราะเมื่อมีปัจจัยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารใด ๆ เข้ามา ตลาดก็มักจะมองไปในทิศทางเดียวกันเป็นส่วนใหญ่
📢 แต่สิ่งหนึ่งที่เทรดเดอร์ควรพึงระวัง Market Sentiment ไว้ให้ดีก็คือ วันที่ไม่มีข่าวสำคัญ
🔍 ทำไมวันที่ไม่มีข่าวสำคัญเราควรระวัง Market Sentiment เป็นพิเศษ ?
เหตุผลที่ Market Sentiment จะมีผลมากในวันที่ไม่มีข่าว นั่นก็เป็นเพราะว่าเราต้องมาเดาทิศทางอารมณ์ของตลาดด้วยตัวเอง โดยที่ไม่มีข่าวชี้นำนั่นเองค่ะ
เราคงจะพอเห็นภาพว่า โดยปกติหากตัวเลขว่างงานออกมาสูง นั่นแปลว่าเศรษฐกิจอาจจะย่ำแย่กว่าเดิมเพราะมีคนว่างงานมากขึ้นใช่มั้ยล่ะคะ นั่นแปลว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอาจจะมั่นคงกว่าในแง่ของการลงทุน ซึ่งก็จะทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นี่ก็เป็นตัวอย่างของการที่เรามองทิศทางจากข่าวและเศรษฐกิจค่ะ
ลองนึกภาพช่วงหรือวันที่ไม่มีข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นสิคะ นั่นแปลว่าเราไม่มีปัจจัยสำคัญชี้นำ และเราต้องมาเดาอารมณ์หรือความคิดของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดล้วน ๆ เลย
Market Sentiment มีในทุกตลาดหรือไม่?
ที่มารูปภาพ : TradingView
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า Market Sentiment มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลานั้น ๆ แล้วอย่างนี้หลายคนคงเกิดความสงสัยว่า แล้ว Market Sentiment มีในทุกตลาดไหม? คุณน้าขอตอบว่า มีค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ตลาดหุ้น
Market Sentiment เป็นปัจจัยสำคัญในตลาดหุ้นเลยค่ะ เพราะปกติแล้วเทรดเดอร์และนักลงทุนจะตัดสินใจจากการพิจารณาแนวโน้มของหุ้นรายตัว, ตลาดโดยรวม, ข่าวสารสำคัญ และรายงานผลประกอบการในช่วง 5-10 ปี เป็นต้น
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ, น้ำมัน และสินค้าเกษตรก็ได้รับอิทธิพลจากความเชื่อมั่นของตลาดเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น พลวัตของอุปสงค์และอุปทาน, เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และแนวโน้มเศรษฐกิจโลกก็เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่มีผลต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ Sentiment ของตลาดก็มีอิทธิพลต่อราคาและอุปสงค์ของอสังหาริมทรัพย์ ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อมั่นในโครงการนั้น ๆ หากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นสูง แน่นอนว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ก็จะมีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย
ตลาดสกุลเงินดิจิทัล
ตลาดสกุลเงินดิจิทัลได้รับอิทธิพลจาก Sentiment ของตลาดค่อนข้างมากค่ะ เพราะตลาดสกุลเงินดิจิทัลไม่ได้มีปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้น-ลงของราคาแบบตายตัว โดยหลาย ๆ ครั้งราคามักจะผันแปรตามสถาบันทางการเงินหรือนักลงทุนรายใหญ่ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การทวีตของ Elon Musk ส่งผลให้ราคาสกุลเงินดิจิทัลผันผวนเป็นอย่างมากค่ะ
ตลาด Forex
ตลาด Forex ถือเป็นอีกหนึ่งในไฮไลต์ของ Market Sentiment เลยค่ะ เพราะตลาด Forex เป็นตลาดที่ไหลตามข่าวค่อนข้างมาก และวันไหนที่เป็นวันที่ธนาคารหยุดทำการหรือไม่ค่อยมีข่าวสำคัญ เทรดเดอร์จะใช้ Sentiment Forex ในการหาแนวโน้มของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
⭐ Tip! การหา Sentiment ในตลาด Forex
ปกติแล้ว การหา Sentiment ในตลาด Forex จะเป็นการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงิน โดยมาจากปริมาณการซื้อ-ขาย (Volume) ของผู้เล่นในตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งนั่นก็คือ Buy และ Sell เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถเตรียมรับมือกับความผันผวนของตลาดได้อย่างทันท่วงที
ตลาดตราสารหนี้
แม้แต่ตลาดตราสารหนี้ที่นักลงทุนให้ความสำคัญกับผลตอบแทนและความเสี่ยงมากกว่า Sentiment ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย, ความคาดหวังทางเศรษฐกิจ และการรับรู้ความน่าเชื่อถือทางเครดิตสามารถส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดตราสารหนี้ได้เหมือนกัน
เครื่องมือที่ช่วยวัด Markets Sentiment มีอะไรบ้าง?
สำหรับเครื่องมือที่ช่วยวัด Markets Sentiment นั้นมีมากมาย ซึ่งแต่ละเครื่องมือก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทการใช้งานของแต่ละคนค่ะ โดยคุณน้าขอยกตัวอย่าง 2 ประเภทที่นักลงทุนและเทรดเดอร์นิยมใช้ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยให้นักลงทุนและเทรดเดอร์สามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดในอนาคตได้
- Indicator : MACD, RSI, The VIX, Bullish Percent Index และ Bollinger Band เป็นต้น
- Chart Pattern : Triangles และ Head and Shoulder
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะช่วยให้นักลงทุนและเทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของสินทรัพย์แต่ละตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ข่าวสารสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง, เศรษฐกิจ และภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นต้น
เหตุการณ์ที่ควรระวังสำหรับ Market Sentiment
การเทขายเพราะความกังวลของตลาดหรือ Panic Sell
Panic Sell หมายถึงสถานการณ์ที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่ถืออยู่อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเกิดความกลัวและทัศนคติเชิงลบเกี่ยวกับสินทรัพย์นั้น ๆ ค่ะ โดยพฤติกรรมนี้ได้รับแรงผลักดันจากความเชื่อที่ว่าตลาดกำลังมุ่งหน้าไปสู่การลดลงอย่างมีนัยสำคัญหรือมูลค่าของสินทรัพย์กำลังจะดิ่งลงนั่นเอง การขายแบบตื่นตระหนกมักเกิดจากเหตุการณ์ที่ผิดคาด จนทำให้สินทรัพย์ที่เราถืออยู่นั้นดูไม่มีความน่าเชื่อถือ และต้องรีบเทขายเพื่อทำกำไร จนราคาลดต่ำลงค่ะ
การเข้าซื้อเพราะมีอุปทานสูงหรือ Serious Buy
Serious Buy หมายถึงสถานการณ์ที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนแสดงพฤติกรรมการซื้ออย่างรุนแรงเพราะว่ามั่นใจในสินทรัพย์นั้น ๆ ค่ะ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดจากความเชื่อที่ว่า ตลาดหรือสินทรัพย์นั้น ๆ ถูกประเมินต่ำเกินไปหรือเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการรีบเข้าซื้อ เพราะราคาจะขึ้นสูงกว่านี้แน่นอน ทำให้เราจะเห็นแท่งสีเขียวยาวประมาณ 8 เมตรอยู่เป็นประจำในช่วง Serious Buy ค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยว Market Sentiment
Market Sentiment คืออะไร?
Market Sentiment คือ ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อตลาด โดยสามารถบ่งบอกได้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่มีมุมมองต่อตลาดในทิศทางไหน
Sentiment Forex คืออะไร?
Sentiment Forex คือ การวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาสกุลเงิน โดยมาจากปริมาณการซื้อ-ขาย (Volume) ของผู้เล่นในตลาด Forex
Sentiment Forex Indicator มีอะไรบ้าง?
คุณน้าขอแนะนำ Indicator ที่ใช้ในการหา Sentiment Forex เช่น MACD, RSI, The VIX, Bullish Percent Index และ Bollinger Band เป็นต้น
สรุป
คุณน้าต้องขอบอกเลยว่า Market Sentiment เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนควรรู้จักไว้และไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะสามารถกำหนดทิศทางราคาหรือตลาดได้เลย ซึ่งอาจจะเป็นเทรนด์ใหญ่หรือเทรนด์เล็กก็ได้
และ Market Sentiment จะมีความสำคัญมากโดยเฉพาะในวันที่ไม่มีข่าวหรือปัจจัยสำคัญชี้นำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการสวิงของราคาขึ้นได้ ทุกคนอย่าลืมกำหนดจุด TP และ SL ในการเปิดออเดอร์อยู่เสมอนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Investopedia
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge