ต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ แต่เงินทุนน้อย แถมไม่ชอบกองทุนรวม ทำอย่างไรดี?! วันนี้คุณน้าจะมานำเสนอทางเลือกใหม่ของการลงทุนหุ้นต่างประเทศให้ทุกคนรู้จักกันค่ะ รับรองว่าทำลายทุกขีดจำกัดของการลงทุนจริง ๆ เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยมาก ๆ จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันกับ DR และ DRx ทางเลือกใหม่ของการลงทุนต่างประเทศ
ทำความรู้จัก DR
Depositary Receipt หรือ DR คือ “ตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ” ที่ได้รับการอนุมัติตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยชาวไทยสามารถซื้อขายหุ้น หรือ ETF ต่างประเทศได้ ผ่านการซื้อขาย DR ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยค่ะ
แต่หากจะให้อธิบายง่าย ๆ เลยก็คือ เป็นการยกเอาตลาดหุ้นต่างประเทศมาให้ทุกคนสามารถซื้อขายได้บนตลาดหุ้นไทยด้วยเงินบาทค่ะ ซึ่งผู้ออก DR จะมีหน้าที่ไปซื้อหุ้นต่างประเทศมาเสนอขายให้แก่นักลงทุนในฐานะ “ผู้ถือหลักทรัพย์ต่างประเทศแทนนักลงทุน” การซื้อขาย DR จึงเป็นเหมือนการซื้อขาย “ใบรับฝาก” นั่นเองค่ะ
โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายขั้นต่ำที่ 1 DR ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับหุ้นต่างประเทศ 1 หลักทรัพย์ค่ะ การซื้อขายสามารถทำได้ผ่านบัญชีเดียวกันกับการซื้อขายหุ้นไทย แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อ 100 หุ้น (Board Lot) เหมือนหุ้นทั่วไปค่ะ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเป็นการซื้อขายใบรับฝาก แต่ผู้ถือก็ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่นเดียวกับการลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยตรงค่ะ
DR แตกต่างจากการซื้อขายหุ้นต่างประเทศโดยตรงอย่างไร ?
ประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนใน DR
- ลงทุนได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ
- ทำการซื้อขายผ่านตลาดหุ้นไทย และเงินบาทไทย ไม่ต้องแลกเงินเอง
- ได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกับลงทุนหุ้นต่างประเทศโดยตรง ทั้งส่วนต่างของราคา และเงินปันผล ตามนโยบายของหุ้นนั้น ๆ
- ซื้อขายขั้นต่ำ 1 DR ไม่จำเป็นต้องซื้อ Board Lot (100 หุ้น) เหมือนหุ้นทั่วไป
- ติดตามข่าวสาร และสิทธิประโยชน์ได้จากผู้ออก DR
ข้อเสีย – ความเสี่ยงจากการลงทุนใน DR
- ความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของราคาตามสภาวะตลาด
- ความเสี่ยงที่เกิดจากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ
- ความเสี่ยงที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินในประเทศนั้น ๆ กับเงินบาท
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องการซื้อขายในแต่ละช่วงเวลา
- ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของผู้ออก DR
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ค่าธรรมเนียมซื้อขาย และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ผู้ออกอาจเรียกเก็บในกรณีที่จ่ายสิทธิประโยชน์
ตัวอย่าง DR ปัจจุบันในตลาดหุ้นไทย
1. E1VFVN3001
DR ที่อ้างอิง ETF ดัชนี VN30 ซึ่งเป็นหุ้นชั้นนำ 30 ตัวแรกของประเทศเวียดนาม ออกโดย บล.บัวหลวง
2. BABA80
DR ที่อ้างอิงหุ้นบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ออกโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ทำความรู้จัก DRx
Fractional DR หรือ DRx คือ “ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจาก DR แต่มีข้อดีมากกว่า เพราะนักลงทุนสามารถซื้อขายได้ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ และสามารถซื้อขายเป็นจำนวนเงินบาท หรือจำนวนหน่วยก็ได้ มีขั้นต่ำอยู่ที่ 0.0001 DRx ค่ะ
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดให้ซื้อขาย DRx ครั้งแรก ในวันที่ 29 กันยายนนี้ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Streaming ประเดิมด้วย DRx ที่น่าจับตามอง คือ
- AAPL80X (Apple DRx) ซึ่งเป็นหุ้นของ Apple Inc.
- TSLA80X (Tesla DRx) ที่เป็นหุ้นของ Tesla Inc.
คุณน้าเชื่อว่า หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ คงเป็นที่รู้จักของทุกคนค่ะ เพราะไม่ใช่เพียงเป็นหุ้นชั้นนำของ Nasdaq แต่ยังถูกกล่าวถึงอย่างมากในสื่อโซเชียลต่าง ๆ ดังนั้น บรรยากาศในวันแรกจึงน่าจะคึกคักมากเช่นกัน ทุกคนก็อย่าลืมติดตามกันนะคะ
สรุปความแตกต่างของ DR กับ DRx
สรุป DR และ DRx ทางเลือกใหม่ของการลงทุนต่างประเทศ
ทั้งคู่ต่างก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อนักลงทุนรายย่อย ให้สามารถเข้าถึงการลงทุนต่างประเทศได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ? น่าสนใจมากเลยใช่ไหม? แถมอีกไม่กี่วันนี้ก็จะเปิดให้ซื้อขาย DRx กันแล้ว ทุกคนมีการเตรียมความพร้อมกันอย่างไรบ้างคะ? ใครซื้อขายแล้วก็อย่าลืมมาอัปเดตพอร์ตกันน้า สำหรับวันนี้คุณน้าขอลาไปก่อนค่ะ พบกันใหม่กับบทความสาระดี ๆ ถัดไปนะคะ
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge