ถ้าพูดถึงศูนย์ค้าปลีกชื่อดังของทางสหรัฐอเมริกาอย่าง Home Depot หลายคนอาจเคยทราบว่าทาง Home Depot นั้นเป็นธุรกิจที่มูลค่าสูงถึง 8 ล้านล้านเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าช่วงนี้ตลาดในทางสหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาหนัก โดยเฉพาะสัปดาห์นี้
เพราะว่าดัชนีหลักของ Wall Street ร่วงลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดย S&P 500 บันทึกเปอร์เซ็นต์การลดลงในหนึ่งวันที่ใหญ่ที่สุดในรอบหนึ่งเดือน โดยส่งผลกระทบจากยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ลดลงซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังจากหน้าแรก คลังสินค้า
หุ้นของ Home Depot ร่วงลง 4.3% หลังจากยอดขายสาขาเดิมในสหรัฐฯ ของบริษัทลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโรคระบาดลดลง หุ้นของบริษัทคู่แข่งอย่าง Lowe ก็ลดลง 5.8% เช่นกัน
จากรายงานระบุว่ายอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ลดลงเกินคาดในเดือนก.ค. เนื่องจากการขาดแคลนอุปทานทำให้การซื้อยานยนต์ลดลง และการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งและการตรวจสอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจางลง บ่งชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงต้นไตรมาสที่สาม
Rick Meckler หุ้นส่วนของ Cherry Lane Investments ในเมือง New Vernon รัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า “ยอดค้าปลีกที่ลดลง ผมคิดว่าเป็นการเหตุผลที่นักลงทุนพอจะรู้ว่า COVID อาจเป็นปัญหาใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง”
ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 282.12 จุดหรือ 0.79% สู่ 35,343.28 ดัชนี S&P 500 หายไป 31.63 จุดหรือ 0.71% สู่ 4,448.08 และแนสแด็กคอมโพสิตลดลง 137.58 จุดหรือ 0.93% สู่ 14,656.18
ด้วยตลาดในช่วงเวลาที่อ่อนแอตามฤดูกาล นักลงทุนกล่าวว่าหุ้นอาจเนื่องมาจากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่ S&P 500 ยังไม่ประสบกับภาวะถดถอย 5% ในปีนี้ ในวันจันทร์ S&P 500 ปิดเหนือระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม 2020 100%
หุ้นประมาณ 9.5 พันล้านหุ้นเปลี่ยนมือในการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายวัน 9.2 พันล้านในช่วง 20 เซสชันล่าสุดเลยทีเดียวค่ะ