สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการการลงทุนอาจจะคงสงสัยใช่ไหมคะว่า ETF หรือ Exchange Traded Fund คืออะไร และมีความแตกต่างกับหุ้นอย่างไร ซึ่งในบทความนี้คุณน้าจะพาทุกคนทำความรู้จักกับ ETF และความแตกต่างระหว่าง ETF และหุ้นกันค่ะ เพื่อที่เราจะสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับตนเองให้ได้มากที่สุดค่ะ ถ้าพร้อมกันแล้วไปเริ่มกันเลยค่ะ
*คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน และบทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้ชี้ชวนการลงทุนแต่อย่างใด
บทความที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนประเภทอื่นเพิ่มเติม :
- ทำความรู้จักดัชนี S&P 500 คืออะไร ? ก่อนเริ่มลงทุนฉบับเข้าใจง่าย
- กองทุนทองคำ ควรซื้อเก็บไหม? หลังทองคำรีเทิร์นพุ่ง มือใหม่เริ่มต้นยังไงดี!
- ตลาดหุ้นจีน ยังน่าลงทุนอยู่ไหม?
ETF คืออะไร?
ETF ย่อมาจาก Exchanged Traded Fund คือ กองทุนที่ลงทุนในดัชนีอ้างอิงต่าง ๆ (Index Fund) ไม่ว่าจะเป็นดัชนี SET50, SET100, ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม, ดัชนีหุ้นต่างประเทศ, ทองคำ, ราคาน้ำมัน และดัชนีตราสารหนี้ เป็นต้น ซึ่ง ETF จะให้ผลตอบแทนอ้างอิงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีให้ได้มากที่สุด
⭐ ลักษณะเด่นของ ETF ⭐
ETF มีการรวมลักษณะเด่นต่าง ๆ ของกองทุนรวมทั่วไปและหุ้นเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่ง ETF จะลงทุนในกลุ่มหุ้นหรือพันธบัตร ในขณะที่นักลงทุนสามารถซื้อและขายกองทุนได้ตลอดวันทำการจนกว่าตลาดจะปิดเหมือนกับตลาดหุ้น และข้อนี้สำคัญมาก ๆ เลยค่ะ กองทุน ETF จะอิงผลตอบแทนตามดัชนีอ้างอิงตามที่ระบุไว้นั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น MSCI India Index นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีดังกล่าวด้วยค่าธรรมเนียมที่น้อยกว่า โดยเราจะได้ผลตอบแทนในการลงทุน ETF จากเงินปันผล (Dividend Yield) และส่วนต่างราคา (Capital Gain)
⭐ Tip ETF ต้องเสียภาษีไหม?
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังสงสัยว่า การลงทุนใน ETF ต้องเสียภาษีไหม คุณน้าขอบอกว่า กำไรที่ได้จากการซื้อขาย ไม่ต้องเสียภาษีค่ะ แต่หากนักลงทุนได้รับเงินปันผลจะต้องจ่ายภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10%
ETF มีกี่ประเภท?
1. Equity ETF
Equity ETF คือ กองทุนที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหุ้นไทย ซึ่งคุณน้าเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักกับ Equity ETF ประเภทนี้ดี หากกล่าวถึง SET50 หรือ SET100 นั่นเองค่ะ
2. Sector ETF
มาต่อกันที่ประเภท ETF ประเภทที่ 2 คือ Sector ETF เป็นกองทุนที่เน้นผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร, ค้าปลีก, เทคโนโลยี และพลังงาน เป็นต้น ซึ่ง Sector ETF เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง เพราะหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมต้องอาศัยการศึกษาความเชื่อมั่นของตลาดในอนาคต
3. Foreign ETF
Foreign ETF เป็นกองทุนที่เน้นให้ผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาหุ้นต่างประเทศ ซึ่งจะเน้นการลงทุนไปที่ธีมหรือเมกะเทรนด์ที่นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ค่ะ ทำให้ ETF ประเภทนี้มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น คุณจะต้องกระจายความเสี่ยงให้ดี อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในเรื่องอัตราการแลกเปลี่ยนค่าเงินอีกด้วยค่ะ
4. Gold ETF
Gold ETF เป็นกองทุนที่เน้นให้ผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาทองคำ ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถซื้อทองคำจริงเก็บไว้ได้ค่ะ ทำให้อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาดูแลทองคำ จึงเหมาะกับนักลงทุนที่กำลังมองหาทางเลือกในการลงทุนประเภทอื่น
5. Bond ETF
Bond ETF เป็นกองทุนที่เน้นให้ผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีราคาตราสารหนี้ ซึ่ง ETF ประเภทนี้จะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ความแตกต่างของ ETF กับหุ้นอย่างไร?
คุณน้าได้รวบรวม 10 ความแตกต่างของ ETF กับหุ้น เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตามตารางด้านล่างนี้เลยค่ะ
ETF | หุ้น | |
---|---|---|
การกระจายการลงทุน | สามารถกระจายการลงทุนได้ทุกประเภทสินทรัพย์ที่ ETF ได้มีการอ้างอิงตามน้ำหนักดัชนี | ลงทุนได้เพียงตราสารทุนเท่านั้น |
ผู้ดูแลสภาพคล่อง* | ✅ | ❌ |
ระดับผลตอบแทน | ต่ำไปจนถึงสูง | สูง |
ความเสี่ยง | ต่ำไปจนถึงสูง | สูง |
ราคาซื้อขาย | Real Time | Real Time |
ซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ | ได้ | ได้ |
ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย | ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์เป็นผู้กำหนด | ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์เป็นผู้กำหนด |
วิธีการซื้อขาย | ผ่านบลจ. (โบรกเกอร์) | ผ่านบลจ. (โบรกเกอร์) |
ระยะเวลาชำระราคา | T+2 | T+2 |
จำนวนขั้นต่ำซื้อขาย | 100 หน่วยลงทุน | 100 หุ้น |
การให้ผลตอบแทน | ตามการอ้างอิงดัชนี | ตามการเปลี่ยนแปลงของหุ้น |
📢 เกร็ดความรู้ ผู้ดูแลสภาพคล่องคืออะไร?
ผู้ดูแลสภาพคล่องหรือ Market Maker คือ บริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่องในการซื้อขายสินทรัพย์ เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายราคาให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิงได้อย่างเหมาะสม
ETF ในไทยมีอะไรบ้าง?
ในปัจจุบัน ETF ในไทยมีทั้งหมด 11 กองทุน จาก 6 บลจ. ได้แก่
- บลจ. วรรณ
- บลจ. กสิกรไทย
- บลจ. บางกอกแคปปิตอล
- บลจ. กรุงไทย
- บลจ. อีสท์สปริง
- บลจ. ยูโอบี
กองทุน ETF | ดัชนีหุ้นในประเทศ | ดัชนีหุ้นต่างประเทศ | สินค้าโภคภัณฑ์ | ตราสารหนี้ |
---|---|---|---|---|
1DIV | SET High Dividend 30 Index (SETHD) | |||
BMSCG | BCAP Mid Small Cap CG Index TR | |||
BMSCITH | MSCI Thailand ex Foreign Board Index | |||
BSET100 | SET100 TRI | |||
TDEX | SET50 | |||
ENGY & ENY | SET Energy & Utilities Sector Index | |||
CHINA | CSI 300 Index | |||
UHERO | Solactive Video Games & Esports Index | |||
UBOT | Indxx Global Robotics & Artificial Intelligence Thematic Index | |||
ABFTH | Boxx ABFTH Index | |||
GLD | LBMA Gold Price AM USD |
ที่มา : SET
ETF จ่ายปันผลไหม
การจ่ายปันผลของ ETF จะขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุนค่ะ บางกองทุนก็มีนโยบายจ่ายเงินปันผล แต่บางกองทุนก็ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาเงื่อนไขของแต่ละกองทุนให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนค่ะ
จุดเด่นของการลงทุน ETF
1. การซื้อขาย ETF สามารถทำได้แบบ Real-Time ซึ่งเหมือนกับการซื้อขายหุ้น
2. การกระจายความเสี่ยงของการลงทุน เหมือนกับกองทุนรวมไม่ได้มีการลงทุนเพียงสินทรัพย์ประเภทเดียว
3. ค่าธรรมเนียมถูกกว่าการซื้อขายหุ้น
4. จำนวนเงินลงทุนน้อยกว่าการซื้อขายหุ้น ซึ่งนักลงทุนที่มีเงินทุนน้อยก็สามารถลงทุนได้
⚠️ ความเสี่ยงของการลงทุน ETF
1. ความเสี่ยงของราคา ETF ที่มีการปรับตัวขึ้นลง จากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ, สังคม และการเมือง เป็นต้น
2. ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัทที่เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของดัชนีที่อ้างอิง
3. ความเสี่ยงในด้านอัตราการแลกเปลี่ยน เนื่องจาก ETF มีการอ้างอิงกับหลักทรัพย์ของต่างประเทศ
มือใหม่อยากลงทุนต้องทำอย่างไร?
อันดับแรกเลย คือ เราต้องเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ค่ะ โดยโบรกเกอร์ต่าง ๆ ในปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างมาก ๆ ที่จะมาเป็นตัวเลือกให้กับนักลงทุนหรือนักเทรด ไม่ว่าจะเป็น Cryptocurrencies, Forex, Stocks, ETF, และ Commodities ซึ่งก็มักจะรวมมาไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้สามารถเลือกกันได้ง่าย ๆ มากเลยค่ะ
อันดับต่อมาคือกำหนดเป้าหมายการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น ต้องการลงทุนในขนาดเท่าใด, ระยะเวลาในการลงทุน, ความเสี่ยงที่รับได้ เป็นต้น และที่สำคัญอย่าลืมติดตามผล ประกอบกับปรับพอร์ตการลงทุนของเราอยู่เรื่อย ๆ ด้วยนะคะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ETF
ETF ย่อมาจากอะไร?
ETF ย่อมาจาก Exchanged Traded Fund คือ กองทุนที่ลงทุนในดัชนีอ้างอิงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นดัชนี SET50, SET100, ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม, ดัชนีหุ้นต่างประเทศ, ทองคำ, ราคาน้ำมัน และดัชนีตราสารหนี้ เป็นต้น
ลงทุน ETF เสี่ยงไหม?
การลงทุน ETF มีความเสี่ยงค่ะ โดยสามารถแบ่งความเสี่ยงออกเป็น 3 ข้อหลัก ๆ ได้แก่ ความเสี่ยงของราคา ETF ที่มีการปรับขึ้นลง, ความเสี่ยงด้านการดำเนินการในแต่ละบริษัท และความเสี่ยงด้านอัตราการแลกเปลี่ยน
ETF ในไทย มีอะไรบ้าง?
ETF ในไทยมีทั้งหมด 11 กองทุน จาก 6 บลจ. ได้แก่ 1DIV, BMSCG, BMSCITH, BSET100, TDEX, ENGY & ENY, CHINA, UHERO, UBOT, ABFTH และ GLD
สรุป ETF คืออะไร?
ETF คือ กองทุนรวมดัชนีที่มีนโยบายการลงทุนที่ให้ตอบแทนใกล้เคียงดัชนีอ้างอิงต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นในเรื่องของการซื้อขายแบบ Real-Time และการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน อีกทั้งยังมีค่าธรรมเนียมน้อย ซึ่ง ETF มีความแตกต่างจากหุ้นด้วยกัน 2 ข้อ คือ การกระจายการลงทุนของสินทรัพย์ และ ETF มีผู้ดูแลสภาพคล่องทำให้ราคาซื้อขายมีความใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง
อย่างไรก็ตาม การลงทุน ETF มีความเสี่ยงในเรื่องของการปรับตัวขึ้นลงของราคาซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ และการดำเนินของบริษัทที่เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิง ซึ่งปัจจุบัน ETF มีหลายประเภท คุณน้าไม่สามารถบอกทุกคนได้ว่า ETF ประเภทไหนดีกว่ากัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและสไตล์การลงทุนของแต่ละคน อีกทั้งอย่าลืมยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยนะคะ
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : คลิกที่นี่
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
ขอบคุณข้อมูลจาก : Investopedia