คุณน้าเชื่อว่า ถ้าหากพูดถึงอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับการเทรดที่ทุกคนต้องรู้จัก คือ TradingView ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสร้างชาร์ตและโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เทรดเดอร์และนักลงทุน 50 ล้านคนทั่วโลกให้ความเชื่อใจและใช้งาน เพื่อเป็นโอกาสในตลาดทั่วโลก ดังนั้น บทความนี้จะพาทุกคนทำความรู้จักกับ TradineView มากขึ้น รวมถึงข้อดีและข้อเสียค่ะ
TradingView คืออะไร ?
TradingView คือ แพลตฟอร์มที่ทำให้เราสามารถดูความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึง Cryptocurrency ได้อีกด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือเปรียบเสมือนกระดานให้เราทดลองเทรดและแลกเปลี่ยนกลยุทธ์ต่าง ๆ แบบเรียลไทม์นั่นเองค่ะ จุดเด่นของ Tradingview คือ การเปิดดูกราฟได้ทันทีผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องผ่านแอปพลิเคชันใด ๆ อย่างไรก็ตาม Tradingview มีโปรแกรมรองรับ iOS และ Android เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้นให้แก่เทรดเดอร์ที่เทรดผ่านมือถือ
การทำงานของ TradingView
TradingView มีไว้สำหรับทดลอง หรือจำลองการเทรดนั่นเองค่ะ ซึ่งเราสามารถปรับแต่ง Indicator, สร้างกราฟ และวิเคราะห์สินทรัพย์การเงินได้นั่นเอง ซึ่งเราเองสามารถเข้าไปฝึกฝีมือในการเทรดก่อนลงสนามจริงได้ค่ะ โดยผู้ใช้สามารถใช้กราฟจากทาง TradingView มาวิเคราะห์กลยุทธต่าง ๆ ที่เราจะใช้ในการเทรด และสามารถให้สมาชิกคนอื่น ๆ มาติดตามและสะท้อนผลได้ด้วยค่ะ
วิธีสร้างบัญชี TradingView
การสร้างบัญชีทำง่ายมากค่ะ เพียงเลือก Sign up ที่มุมบนด้านขวาจอ และเลือกวิธีการสมัคร ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Social หลัก ๆ เช่น Twitter, Google, Facebook, Yahoo โดยขั้นตอนการสมัครจนแล้วเสร็จ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที เพียงเท่านี้เราก็จะได้บัญชีฟรี พร้อมใช้งาน Tradingview แล้ว โดยรูปแบบของบัญชีนั้นมี 4 แบบ แบบแรกคือบัญชีฟรี และอีก 3 แบบจะมีค่าใช้จ่าย ตัวเลือกแบบมีค่าใช้จ่ายมีทั้งแบบให้บริการเป็นรายเดือน รายปีและทุกสองปี โดยแผนชำระเงินมาพร้อมกับการทดลองใช้งานฟรีครบ 30 วัน
ข้อดีของ TradingView
1. สามารถใช้งาน ตัวช่วยเทรด TradingView ได้ฟรี เพียงแค่เข้าไปที่เว็บไซต์ Tradingview เราก็สามารถดูกราฟเกือบทุกอย่างได้ฟรี อาจมี Feature บางอันที่ต้องอัพเกรดหรือจ่ายรายเดือนค่ะ เช่น เปิดพร้อมกันมากกว่าสองเครื่อง หรือ save layout chart มากกว่าหนึ่งรูปแบบนั่นเอง แต่ถ้าให้แนะนำคือใช้ตัว Free Version ไว้ดูกราฟก็เพียงพอแล้วค่ะ
2. TradingView เป็น Web-based Application หมายถึงว่าไม่จำเป็นต้อง Download หรือ Install อะไรทั้งนั้นบนอุปกรณ์ค่ะ และไม่ต้องมานั่งตามว่าเวอร์ชั่นอัพเดทล่าสุดเมื่อไหร่ เพียงแค่มี Internet กับ Internet Browser ก็สามารถใช้ TradingView ได้แล้วค่ะ
3. ความหลากหลายของหุ้น และตราสาร ที่เราสามารถดูจากกราฟได้
- Dow Jones Index
- ราคา ทองคำ
- ราคาน้ำมัน
- ราคา Bitcoin กับ Ethereum ทั้งแบบเป็น บาท และ ดอลลาร์
- Forex USD/THB
- หุ้นไทย
- ฟิวเจอร์ s50 series M ราย 1 นาที
4. เครื่องมือด้านเทคนิคครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการตีกรอบ Trendline สร้างกรอบ Bollinger Band หรือจะดูเส้น Indicator RSI, Stochastics, MACD, moving average TradingView สามารถดูได้หมด และสามารถปรับค่าวันที่ของเส้น indicator ได้ตามที่ต้องการได้อีกด้วย
5. TradingView มีหมวดหมู่ของข่าวที่เกิดขึ้นและมีการอัปเดตแบบเรียลไทม์ โดยมีการแบ่งประเภทของสินทรัพย์ ทำให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายค่ะ
สิ่งที่ควรตรวรสอบเมื่อใช้งาน TradingView
1. เทรดเดอร์ต้องมีการตรวจสอบประวัติของสมาชิกเปิดหลักสูตรอบรม ถึงแม้ว่าจะมีคะแนนสูงจากการมีกำไร ซึ่งเทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียง แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมและความกระตือตือร้น แต่ไม่ได้วัดหลักการทำกำไรได้ดี ดังนั้นก่อนที่คุณจะลงทะเบียนอบรมกับเทรดเดอร์คนใด ควรมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ อีกอย่างคือการที่เราจะกลายเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพต้องมีการฝึกฝนการเทรดด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
2. การซื้อสัญญาสมาชิกต้องมีการตรวจสอบประวิตของสมาชิกอย่างละเอียดรอบคอบ
สรุป
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เราสามารถเข้าไปใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างฟรี ๆ สำหรับเทรดเดอร์คงพลาดไม่ได้แล้วสำหรับโปรแกรมดี ๆ แบบนี้ นอกจากนี้ TradingView ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายให้เราได้ลองใช้กัน อย่าลืมไปฝึกฝน ฝึกใช้กันบ่อย ๆ เพื่อความชำนาญในการเทรดนะคะ ก่อนที่เราจะทำการเทรดจริง อีกทั้ง TradingView ยังมีกลยุทธ์การเทรดของเทรดเดอร์คนอื่นให้เราได้เรียนรู้ อย่างไรก็ตามเราควรตรวจสอบประวัติและข้อมูลของเทรดเดอร์คนอื่นอย่างละเอียดรอบคอบ อีกอย่างที่คุณน้าบอกทุกคนเสมอคือการที่เราจะกลายเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพได้นั้นต้องมีการฝึกฝนการเทรดด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge