Pepperstone ดีจริงไหม? รีวิวทุกเรื่องที่สำคัญ อัปเดตปี 2025

สวัสดีค่ะ นักเทรดทุกท่าน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? หลายคนอาจกำลังลังเลเกี่ยวกับการเริ่มต้นลงทุน หรือยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกโบรกเกอร์ใดสำหรับการเทรดดี วันนี้คุณน้าขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ นั่นคือ Pepperstone โบรกเกอร์ที่เปิดให้บริการตั้งแต่เทรดเดอร์รายย่อยไปจนถึงนักลงทุนในระดับสถาบัน

เรามาดูกันค่ะว่า Pepperstone มีจุดเด่นและข้อได้เปรียบอะไรบ้างที่ทำให้หลายคนเลือกใช้บริการ ที่สำคัญ อย่าลืมติดตามผลคะแนนรีวิวโบรกเกอร์จากคุณน้าด้วยนะคะ เพราะจะช่วยให้ทุกท่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้น Pepperstone

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2010 โดยกลุ่มนักเทรดที่มีประสบการณ์ ซึ่งทางโบรกเกอร์ Pepperstone ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ และให้บริการสินทรัพย์ที่หลากหลาย แต่การฝากถอนใช้เวลาค่อนข้างนาน รวมทั้งมีการเรียกเก็บค่า Swap สำหรับทุกบัญชี ทำให้อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับเทรดเดอร์สายเทรดยาว รวมทั้งยังมีการจำกัด Leverage สูงสุดเพียง 1:500 สำหรับลูกค้ามืออาชีพ และ 1:200 สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไปค่ะ

ประเภทบัญชี Pepperstone

โบรกเกอร์ Pepperstone มีบัญชีทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกัน คือ 1. บัญชี Razor และ 2. บัญชี Standard โดยบัญชี Razor จะคิดค่าคอมมิชชันอยู่ที่ $3/lot/side ส่วนบัญชี Standard ไม่คิดค่าคอมมิชชันค่ะ

สำหรับการให้ Leverage สูงสุด ทางโบรกเกอร์ Pepperstone ให้ Leverage ในบัญชี Razor และบัญชี Standard เหมือนกันค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• นักลงทุนรายย่อย : Leverage สูงสุดอยู่ที่ 1:200
• นักลงทุน Pro* : Leverage สูงสุดอยู่ที่ 1:500

นอกจากนี้ ทาง Pepperstone ยังรองรับการซื้อขายใน 10 สกุลเงิน ได้แก่ AUD, USD, JPY, GBP, EUR, CAD, CHF, NZD, SGD และ HKD

* หมายเหตุ: ในกรณีที่นักลงทุนรายย่อยต้องการอัปเกรดเป็นนักลงทุน Pro สามารถทำได้ผ่านกระบวนการรับรองตนเอง โดยเข้าไปที่ Secure Client Area และตอบคำถามที่ทางโบรกเกอร์กำหนด เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• มีประสบการณ์ในการซื้อขายอนุพันธ์ทางการเงิน CFD หรือ OTC
• มีเงินฝากและพอร์ตการซื้อขายเกิน $500,000
• มีประสบการณ์การทำงานในสถาบันการเงิน

📌 สำหรับโบรกเกอร์ Pepperstone มีการกำหนดระดับ Leverage สูงสุดไว้ที่ 1:500 แต่เงื่อนไขนี้ใช้ได้เฉพาะกับลูกค้าประเภท Professional Client เท่านั้น โดยต้องผ่านกระบวนการยืนยันคุณสมบัติและตอบคำถามเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโบรกเกอร์ หากไม่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว ลูกค้าทั่วไปจะสามารถใช้ Leverage ได้สูงสุดเพียง 1:200 ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับเทรดเดอร์สายเก็งกำไรที่ต้องการ Leverage สูง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งคุณน้าเห็นว่ามีโบรกเกอร์รายอื่นที่ให้ Leverage สูงแต่มีเงื่อนไขที่ไม่ยุ่งยาก ยกตัวอย่างเช่น

ค่าสเปรดของ Pepperstone

ค่า Spread เริ่มต้นอยู่ที่ 1.0 pips และคิดค่า Swap โดยไม่มีข้อยกเว้นค่ะ ซึ่งคุณน้าขอยกตัวอย่างเป็น 3 คู่สกุลเงินยอดนิยม โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

จากข้อมูลในตารางคู่สกุลเงินยอดนิยม จะเห็นได้ว่า Pepperstone มีการเรียกเก็บค่า Spread ที่ค่อนข้างสูง และยังคิดค่า Swap ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมสำหรับออเดอร์ที่ถือข้ามคืน แม้จำนวนเงินที่เรียกเก็บอาจดูไม่สูงในแต่ละธุรกรรม แต่เมื่อรวมกันในระยะยาว อาจกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีโบรกเกอร์รายอื่นในตลาดที่เสนอค่า Spread ต่ำกว่า Pepperstone อยู่มาก ซึ่งอาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการลดต้นทุนในการเทรด ยกตัวอย่างเช่น

• IUX มีค่า Spread เริ่มต้นอยู่ที่ 0.2 pips
• Connext มีค่า Spread เริ่มต้นอยู่ที่ 0.6 pips
• FXGT.com มีค่า Sprade เริ่มต้นอยู่ที่ 0.5 pips
  

📌 สำหรับการคิดค่า Swap นั้น Pepperstone มีการคิดค่า Swap ซึ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบการถือออเดอร์ระยะยาว คุณน้าขอแนะนำ IUX และ FBS ค่ะ โดย IUX ไม่คิดค่า Swap ในทุกประเภทสินทรัพย์และมีบัญชีให้เลือกหลากหลาย ส่วน FBS ไม่คิดค่า Swap เช่นเดียวกัน แต่มีเพียงบัญชีเดียวเท่านั้นค่ะ

ช่องทางการฝาก – ถอนของ Pepperstone

สำหรับช่องทางการฝาก-ถอนของ Pepperstone นั้น มีหลากหลายช่องทางด้วยกันค่ะ อีกทั้งยังไม่มีกำหนดการฝาก-ถอนเงินขั้นต่ำอีกด้วย โดยช่องทางการฝาก-ถอนเงินมีรายละเอียด ดังนี้

• Visa
• Mastercard
• การโอนผ่านธนาคาร
• UnionPay
• PayPal
• Skrill
• Neteller
• Bpay
• USDT

📌สำหรับช่องทางการฝากถอนของ Pepperstone นั้น มีหลากหลายช่องทางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต, Skrill, Neteller และ PayPal เป็นต้น โดยระยะเวลาการฝากเงินของ Pepperstone อยู่ที่ 5-10 นาที ส่วนการถอนเงินค่อนข้างนาน โดยใช้ระยะเวลา 3-5 วันทำการค่ะ ทำให้ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการถอนเงินไว เพื่อนำเงินออกมาใช้ในยามฉุกเฉิน

Platform ที่รองรับสำหรับ Pepperstone

สำหรับ Platform ที่รองรับการเทรด ทางโบรกเกอร์มีทั้งหมด 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่

• MetaTrader 4
• MetaTrader 5
• cTrader
• TradingView

ผลิตภัณฑ์ที่ Pepperstone ให้บริการ

โบรกเกอร์ Pepperstone มีผลิตภัณฑ์ CFD สำหรับการเทรดกว่า 1,200 รายการ โดยมีสินทรัพย์ CFD ยอดนิยม ดังนี้

• Forex
• สินค้าโภคภัณฑ์
• ETF
• หุ้น
• สกุลเงินดิจิทัล
• ดัชนีสกุลเงิน
• Futures

📢 คำแนะนำจากคุณน้า

หลังจากทำความรู้จักกับโบรกเกอร์ Pepperstone กันพอสมควรแล้ว จะเห็นว่าโบรกเกอร์นี้เปิดให้บริการผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและมีช่องทางการฝาก-ถอนให้เลือกใช้งาน ด้วยที่เปิดให้บริการเป็นเวลานาน ทำให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักเทรดชาวไทย แม้ว่าหน้าเว็บจะมีภาษาไทยให้บริการ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่จำกัดการให้บริการบางผลิตภัณฑ์กับเทรดเดอร์ชาวไทย ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนควรศึกษารายละเอียดของตัวโบรกเกอร์ให้ดีเพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของผู้เทรดเอง และเพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนของเรา แต่ก่อนจะตัดสินใจ คุณน้ามีจุดเด่นและจุดอ่อนของโบรกเกอร์ Pepperstone เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจของนักเทรดที่สนใจโบรกเกอร์นี้กันนะคะ

⭐ สรุปคะแนนจากคุณน้า : 5 / 10 ⭐

⚠️ รีวิวจากผู้ใช้งาน Pepperstone

Link: https://www.trustfinance.com/companies/pepperstone

Link: https://www.trustfinance.com/companies/pepperstone

Link: https://www.trustpilot.com/review/pepperstone.com

Link: https://www.facebook.com/groups/666530527014836/search/?q=peperstone

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge