กฎหมายสมรสเท่าเทียม : คู่รัก LGBTQ+ จะได้รับสิทธิอะไรบ้าง?

กฎหมายสมรสเท่าเทียมและสิทธิทางการเงินของ LGBTQ+
Table of Contents

ใกล้เข้ามาแล้ว สำหรับการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีของคู่รัก LGBTQ+ ทุกคนเลยค่ะ และที่สำคัญยังเป็นการยกระดับความเท่าเทียมทางเพศของสังคมไทยอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย โดยสิทธิทางการเงินที่คู่รัก LGBTQ+ ควรรู้ จะมีเรื่องอะไรบ้าง? ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด

กฎหมายสมรสเท่าเทียม คืออะไร?

กฎหมายสมรสเท่าเทียม คือ การสมรสระหว่างบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยไม่ได้จำกัดแค่การสมรสระหว่างชาย-หญิงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมการสมรสทุกเพศสภาพ ทุกอัตลักษณ์ ให้มีสิทธิขั้นพื้นฐานตามศักดิ์ศรีของมนุษย์คนหนึ่งพึงมีค่ะ

🔍 Tip สมรสเท่าเทียมเหมือนหรือต่างจาก พ.ร.บ.คู่ชีวิตหรือไม่?

จากที่กล่าวมาข้างต้น หลายคนคงสับสนว่า สมรสเท่าเทียมเหมือนหรือต่างจาก พ.ร.บ.คู่ชีวิต แท้จริงแล้ว พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับมีความแตกต่างกันค่ะ โดยคุณน้าจะขออธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า สมรสเท่าเทียม คือ บุคคลทุกเพศสภาพสามารถสมรสกันได้ รวมทั้ง ยังได้สิทธิตามคู่สมรสชาย-หญิงทุกประการ

ในขณะที่ พ.ร.บ.คู่ชีวิต คือ คนเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตกันได้เหมือนคู่ชาย-หญิง แต่สิทธิบางประการจะถูกจำกัด ยกตัวอย่างเช่น สมรสเท่าเทียมจะให้สิทธิคู่สมรสในการใช้นามสกุลของคู่สมรสอีกฝ่าย แต่ พ.ร.บ.คู่ชีวิตจะไม่สามารถให้สิทธินี้ได้ค่ะ

พ.ร.บ.คู่ชีวิต กับ สมรสเท่าเทียมต่างกันหรือไม่


บุคคลลักษณะใดที่จะได้รับการยกเว้นสิทธิการสมรส

  • บุคคลที่มีคู่สมรสอยู่แล้ว
  • บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลที่ศาลสั่งให้ไร้ความสามารถ
  • บุคคลที่เป็นญาติสืบสายโลหิตเดียวกัน เช่น พี่น้องร่วมบิดามารดา, ปู่ย่าตายาย, พี่น้องร่วมแต่บิดาหรือร่วมแต่มารดา
  • บุคคลที่เป็นผู้รับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรม

กฎหมายสมรสเท่าเทียม บังคับใช้วันไหน?

หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศรับรองการสมรสระหว่างบุคคลที่ไม่ใช่แค่ “เพศชายและเพศหญิง” อีกต่อไป โดยกฎหมายแพ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อพ้น 120 วันนับจากวันประกาศราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2025 ที่จะถึงนี้ค่ะ


สิทธิทางการเงินที่คู่รัก LGBTQ+ ควรรู้ มีอะไรบ้าง?

สมรสเท่าเทียมกับสิทธิทางการเงินของคู่รัก LGBTQ+

การประกาศใช้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมถือเป็นก้าวสำคัญ สำหรับคู่รัก LGBTQ+ ในประเทศไทย เพราะการผลักดันกฎหมายฉบับนี้ ใช้เวลานานถึง 22 ปี เพื่อให้สิทธิในการสมรสระหว่างบุคคล 2 คน โดยปราศจากการใช้เพศสภาพมาเป็นข้อกำหนด

ดังนั้น ในบทความนี้ คุณน้าพาเทรดจะมาสรุปสิทธิทางการเงินขั้นพื้นฐานที่คู่รัก LGBTQ+ ควรรู้ 7 ข้อ มาให้อ่านกันค่ะ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

1. สิทธิในการแต่งงาน

มาเริ่มกันที่สิทธิในการแต่งงานตามที่กฎหมายให้การรับรอง โดยคู่รัก LGBTQ+ สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่ได้จำกัดแค่ชาย-หญิง แต่เป็นบุคคล-บุคคล โดยสิทธิในการแต่งงานของคู่รัก LGBTQ+ มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

  • บุคคลทุกเพศจะมีสิทธิในการหมั้นหรือสมรส เมื่อมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป กรณีเป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย
  • สามารถใช้นามสกุลของคู่สมรสได้ ซึ่งรวมถึงการใช้นามสกุลในชื่อกลาง หากได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่าย
  • สามารถจดทะเบียนสมรสกับคู่สมรสที่เป็นชาวต่างชาติในประเทศไทยได้ (สามารถจดทะเบียนสมรสได้ที่ว่าการอำเภอ, สำนักงานเขตในกรุงเทพฯ หรือสถานทูตไทยในต่างประเทศ)

🔍 Tip จดทะเบียนสมรสเท่าเทียมใช้อะไรบ้าง?

กรณีคู่สมรสชาวไทย

  • บัตรประชาชน
  • สัญญาก่อนสมรส (ถ้ามี)
  • พยานบุคคลอายุ 20 ปีขึ้นไป จำนวน 2 คน
  • กรณีผู้เยาว์ต้องมีใบยินยอมจากผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย

กรณีคู่สมรสชาวต่างชาติ

  • หนังสือเดินทาง
  • หนังสือรับรองการสมรส
  • เอกสารที่มีการแปลเป็นภาษาไทย โดยจะต้องได้รับการรับรองจากสถานกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ

2. สิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วม

สิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วมกัน สำหรับคู่รัก LGBTQ+ ที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมีสิทธิในการบริหารจัดการทรัพย์สินร่วมกัน สามารถแบ่งออกเป็น 5 ข้อ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • คู่สมรสสามารถซื้อขาย หรือถือครองทรัพย์สินร่วมกันได้ เช่น บ้าน, ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่น ๆ 
  • ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส เช่น เงินเดือน, โบนัส, ทรัพย์สินที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาจากพินัยกรรมหรือการให้เป็นหนังสือที่ระบุไว้ว่าเป็นสินสมรส รวมถึงดอกผลของสินส่วนตัว
  • กฎหมายรองรับการเป็นเจ้าของร่วม (Joint Ownership) โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกิดจากเพศมาจำกัด
  • สามารถแบ่งปันทรัพย์สินคนละครึ่งตามระบบสินสมรส ในกรณีที่เกิดการหย่าร้าง หรือหากทรัพย์สินนั้น ได้มาหลังจดทะเบียน ซึ่งเกิดจากการทำมาหากินร่วมกัน
  • การปล่อยเงินกู้สามารถทำได้ หากได้รับการยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดประโยชน์เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

🔍 ข้อสังเกต หากคู่สมรสไม่ต้องการแบ่งสินสมรส สามารถทำได้อย่างไร?

หากคู่สมรสไม่ต้องการแบ่งทรัพย์สินระหว่างสมรส สามารถทำสัญญาเป็นหนังสือ เพื่อแบ่งทรัพย์สินให้ชัดเจน แล้วถือไปตอนจดทะเบียนสมรสได้


3. สิทธิในการอุปการะบุตรร่วมกัน

สำหรับคู่รัก LGBTQ+ ที่ต้องการอุปการะบุตรบุญธรรมร่วมกัน สามารถทำได้เมื่อจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ซึ่งจะแตกต่างจากเดิมที่คู่รัก LGBTQ+ สามารถอุปการะบุตรบุญธรรมได้เพียงคนเดียว โดยสิทธิในการอุปการะบุตรบุญธรรมร่วมกัน มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

  • ผู้รับบุตรบุญธรรมจะต้องมีอายุมากกว่าบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี
  • บุตรบุญธรรมสามารถใช้นามสกุลของคู่สมรสได้
  • มีสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลบุตรบุญธรรมอย่างเต็มที่

4. สิทธิประโยชน์ด้านภาษี

สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่คู่รัก LGBTQ+ ควรรู้ มีทั้งหมด 3 ข้อสำคัญ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • สามารถลดหย่อนภาษีคู่สมรสได้ไม่เกิน 60,000 บาท ต่อคน ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะถือเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น
  • ได้รับการยกเว้นเสียภาษีมรดก ในกรณีที่คู่สมรสเกิดการเสียชีวิต
  • เงินได้ที่ได้มาด้วยความเสน่หาจากคู่สมรส ซึ่งไม่เกิน 20,000,000 บาท ต่อปีภาษี ไม่จำเป็นต้องนำมาคำนวณ เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา


5. สิทธิในการรับมรดก

สำหรับสิทธิในการรับมรดกที่คู่รัก LGBTQ+ ควรรู้ เมื่อจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้

  • คู่สมรสมีสิทธิเป็นผู้รับมรดกตามกฎหมาย ในกรณีที่คู่สมรสอีกฝ่ายเสียชีวิต ซึ่งคู่สมรสจะถือเป็นทายาทโดยชอบธรรมอันมีสิทธิได้รับมรดกของคู่สมรสที่เสียชีวิตตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ยกเว้นผู้ตายได้ทำพินัยกรรมเป็นอย่างอื่นแทน

6 สิทธิในการหย่าร้าง

โดยปกติแล้ว การหย่าร้างถือเป็นธรรมชาติของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งสิทธิในการหย่าร้างของคู่รัก LGBTQ+ เมื่อจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม จะมีสิทธิเหมือนกันกับคู่สมรสชายหญิงค่ะ โดยคุณน้าขอยกตัวอย่าง 3 ข้อสำคัญ ดังนี้

  • สิทธิในการเรียกค่าทดแทน หากอีกฝ่ายผิดสัญญาหมั้น
  • สิทธิในการเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งเป็นชู้ของคู่สมรส
  • สิทธิในการเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือการแบ่งสินสมรสตามกฎหมาย ในกรณีหย่าร้าง


7. สิทธิประโยชน์อื่น ๆ

นอกจากสิทธิทางการเงินที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว คู่รัก LGBTQ+ ยังสามารถได้สิทธิประโยชน์อื่น ๆ จากภาครัฐ โดยคุณน้าขอยกตัวอย่าง 9 สิทธิประโยชน์ มีรายละเอียด ดังนี้ 

  1. คู่สมรสสามารถระบุชื่อของกันและกัน เป็นผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุได้
  2. สิทธิในการใช้สวัสดิการประกันสังคมและกองทุนบำเหน็จบำนาญที่เกี่ยวข้องกับครอบครัว เช่น เงินบำนาญคู่สมรส ในกรณีเสียชีวิต
  3. สิทธิในการให้ความยินยอมรักษาพยาบาลของคู่สมรส
  4. สิทธิในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคู่สมรส
  5. สิทธิในการบรรจุข้าราชการ ในกรณีที่คู่สมรสเกิดการเสียชีวิตจากการรบหรือการปฏิบัติหน้าที่
  6. สิทธิในการได้รับเงินชดเชย ในกรณีการเสียชีวิตหรืออุบัติเหตุของคู่สมรส เช่น เงินประกันสังคม หรือเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตในที่ทำงาน
  7. สิทธิในวันลาพักร้อนหรือวันลา เพื่อดูแลคู่สมรสในกรณีเจ็บป่วย
  8. คู่สมรสสามารถเปิดบัญชีธนาคารร่วมกัน เพื่อการออม, การลงทุน หรือการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
  9. คู่สมรสสามารถกู้สินเชื่อร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน, คอนโด หรือที่ดิน เป็นต้น


ประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทย เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว

หากไทยมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม หลังจากวันที่ 22 มกราคม 2025 เป็นต้นไป จะไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับความเท่าเทียมทางเพศในสังคมไทยเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้นไปอีกระดับหนึ่งได้เช่นกันค่ะ เพราะการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจร้านอาหาร, ธุรกิจประกันภัย หรือแม้แต่ธุรกิจเกี่ยวกับการแต่งงานก็จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น และไทยจะกลายเป็นปลายทางที่เปิดกว้างและปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศอีกด้วยค่ะ

เรียกได้ว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมไม่เพียงแค่เพิ่มความเท่าเทียมทางเพศในสังคมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่สมรส LGBTQ+ มีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่อีกด้วยค่ะ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสมรสเท่าเทียม

สมรสเท่าเทียม เริ่มใช้วันไหน?

สมรสเท่าเทียมจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2025 เป็นต้นไป

บุคคลลักษณะใดไม่สามารถสมรสกันได้?

  • บุคคลที่มีคู่สมรสอยู่แล้ว
  • บุคคลวิกลจริตหรือบุคคลที่ศาลสั่งให้ไร้ความสามารถ
  • บุคคลที่เป็นญาติสืบสายโลหิตเดียวกัน เช่น พี่น้องร่วมบิดามารดา, ปู่ย่าตายาย, พี่น้องร่วมแต่บิดาหรือร่วมแต่มารดา
  • บุคคลที่เป็นผู้รับบุตรบุญธรรมสมรสกับบุตรบุญธรรม

5 ตัวอย่างสิทธิทางการเงินที่คู่สมรส LGBTQ+ จะได้รับ มีอะไรบ้าง?

  • สิทธิในการแต่งงาน
  • สิทธิในการจัดการทรัพย์สินร่วม
  • สิทธิในการอุปการะบุตรร่วมกัน
  • สิทธิประโยชน์ด้านภาษี
  • สิทธิในการรับมรดก


สรุปกฎหมายสมรสเท่าเทียมสำคัญอย่างไร?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยให้การยอมรับและเปิดกว้างกับคู่สมรสทุกเพศสภาพ ทุกอัตลักษณ์ในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะได้รับ เทียบเท่ากับคู่สมรสชายหญิง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการแต่งงาน, สิทธิด้านภาษี หรือแม้แต่สิทธิในการรับมรดก เป็นต้น อีกทั้งกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังส่งผลกระทบเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจไทย เพื่อเพิ่มโอกาสให้หลาย ๆ ธุรกิจสามารถเติบโตได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก :Thairath, iLaw และ Thai PBS


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
กฎหมายสมรสเท่าเทียมและสิทธิทางการเงินของ LGBTQ+
กฎหมายสมรสเท่าเทียม : คู่รัก LGBTQ+ จะได้รับสิทธิอะไรบ้าง?

การประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีของคู่รัก LGBTQ+ ทุกคนเลยค่ะ โดยสิทธิทางเงินที่คู่รัก LGBTQ+ ควรรู้จะมีเรื่องอะไรบ้าง?

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งมีข่าวสำคัญจากสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลงไปที่บริเวณ 2,645-2,647 ดอลลาร์ และเกิด QM ค่ะ

แนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
แนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุน ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส

คุณน้าจะขอแนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุนต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ไปกับตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะเริ่มต้นปี 2025 กันค่ะ