ก่อนหน้านี้ คุณน้าได้นำเสนอเกี่ยวกับแนวโน้มที่ส่งผลต่อการลงทุนปี 2023 ไปแล้ว วันนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปดูเทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจในปี 2023 กันบ้างค่ะ โดยเทรนด์ที่คุณน้าคัดมานี้ เรียกได้ว่า เป็นเทรนด์ที่ล้อตามแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้และปีหน้าเลยค่ะ ดังนั้น คุณน้าจะสรุปภาพรวมเศรษฐกิจคร่าว ๆ จากบทความก่อนหน้าให้ทุกคนดูกันก่อน
แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2022 – 2023
ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2022 : เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวหลังโควิด-19 ส่วนเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะชะลอตัวและถดถอยจากวิกฤตเงินเฟ้อ ธนาคารกลางหลายแห่งจึงเร่งใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ภาคการลงทุนมีความผันผวนสูงค่ะ
แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2023 : ทิศทางเศรษฐกิจไทยปีหน้าอาจไม่สดใสนัก เพราะได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อีกทั้ง ความไม่แน่นอนยังมีรอบด้าน ทำให้ภาคธุรกิจต้องเตรียมรับมืออย่างหนัก แม้ว่าปี 2023 จะเป็นปีแห่งความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงรอบด้าน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นปีแห่งโอกาสในการลงทุน ซึ่งมีหุ้นดีราคาถูกรออยู่เช่นกันค่ะ
3 เทรนด์การลงทุนที่น่าสนใจในปี 2023
1. ตราสารหนี้
หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับเงินเฟ้ออย่างหนัก จนทำให้อัตราดอกเบี้ยของหลาย ๆ ประเทศในขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง “ตราสารหนี้” ก็มีความน่าสนใจมากขึ้นค่ะ เพราะตราสารหนี้ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ที่ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
แล้วทำไมตราสารหนี้จึงเป็นคำตอบสำหรับเทรนด์ปีหน้า? นั่นก็เพราะในปีที่ผ่านมา ราคาของตราสารหนี้มีการปรับตัวลดลง แปรผกผันกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปี 2023 มีโอกาสสูงที่ตราสารหนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นค่ะ
เหตุผลเพราะมีการคาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในปีหน้าน่าจะเข้าใกล้จุดสูงสุด เนื่องจากเงินเฟ้อของสหรัฐฯ น่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ประกอบกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่น่าจะขึ้นถึงแค่ช่วงไตรมาสแรกของปีนั่นเองค่ะ ทั้งหมดนี้จึงทำให้ตราสารหนี้กลายเป็นสินทรัพย์ที่น่านำมาจัดพอร์ตการลงทุนปีหน้าค่ะ
2. หุ้นต่างประเทศ
ปีนี้ตลาดมีความผันผวนมาก ขึ้นสุดลงสุดจนน่าผวา ดังนั้น ในปีหน้า หุ้นบางตัวจึงมีโอกาสที่จะเริ่มฟื้นตัว เพราะปัจจัยกดดันหลายอย่างน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น การฟื้นตัวก็น่าจะเริ่มจากกลุ่มบริษัทที่มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง รายได้และกำไรชัดเจน ซึ่งส่วนมากจะเป็นหุ้นต่างประเทศค่ะ
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าหุ้นต่างประเทศของทุกประเทศจะน่าจับตามอง เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ประกอบกับที่ IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2023 จะเติบโตอย่างอ่อนแอ โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างอเมริกาและยุโรป ขณะที่ตลาดเอเชียอยู่ในระดับที่ยังพอไปได้
ดังนั้น ประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งในแถบเอเชียที่น่าสนใจจึงเป็น “ประเทศจีน” ที่มีความโดดเด่น คือ เศรษฐกิจจีนเติบโตเร็วที่สุดในโลก สวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นที่ปั่นป่วน ทำให้เมื่อปัจจัยลบภายนอกหมดไป หุ้นจีนจึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกครั้งค่ะ และหากมองในระยะยาว ก็มีหลายฝ่ายที่เชื่อว่า หุ้นจีนร่วงแค่ระยะสั้นเท่านั้น การลงทุนระยะยาวยังน่าสนใจ เพราะกำลังซื้อในประเทศที่สูงค่ะ
3. หุ้นไทย
แม้ว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวและถดถอยในปีหน้า แต่เศรษฐกิจไทยกลับฟื้นตัวได้ดีสวนทางโลก โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวค่ะ ทำให้ปี 2023 มีโอกาสสูงที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาไทยมากขึ้น ดังนั้น ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวก็จะมีการปรับตัวสูงขึ้นค่ะ
ทำไมจึงควรลงทุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในไทย? นั่นก็เป็นเพราะภาคธุรกิจอื่นถูกกดดันสูง ทั้งจากภายนอกและภายในค่ะ ดังนั้น หากไม่อยากทนถือผ่านวิกฤตแห่งความไม่แน่นอนทั้งหลายแล้ว นักลงทุนจึงต้องเลือกหุ้นตามอุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้รับผลประโยชน์ในช่วงนั้น ๆ เป็นหลักค่ะ
แม้ว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวจะมีอัตราส่วนทางการเงินไม่ดีมากนัก แต่ด้วยการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเปิดเมือง จะเป็นการหนุนให้ผลประกอบการและอัตราส่วนทางการเงินเป็นไปตามปัจจัยพื้นฐาน ทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นในปีหน้านั่นเองค่ะ
ทั้งหมดนี้ คือ 3 เทรนด์การลงทุนที่คุณน้าได้คัดเลือกมาให้ทุกคนค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อยนะคะ และขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดี แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกันค่ะ สุดท้ายนี้ คุณน้าขอเตือนอีกครั้งนะคะว่า โปรดใช้เงินเย็นในการลงทุน และศึกษาความเสี่ยงทั้งหมดก่อนการลงทุนด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Plus.thairath, The Standard, Kasikornasset, Wealthythai, Checkraka
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge