เมื่อโลกกำลังเผชิญปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากภาวะโลกร้อนที่กระทบต่อการใช้ชีวิตของเราอยู่ ณ ขณะนี้ ด้วยเหตุนี้เอง นักลงทุนจึงหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนที่หลากหลายมิติมากยิ่งขึ้น โดยไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อความยั่งยืน หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในคำว่า “การลงทุน ESG” นั่นเองค่ะ
ในบทความนี้ คุณน้าพาเทรดจะพาทุกคนมารู้จักกับกองทุน Thai ESG ทางเลือกใหม่เพื่อความยั่งยืน ซื้อกองไหนดี? ปี 2024 เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับกองทุนประเภทนี้ดียิ่งขึ้น หากพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยค่ะ!
บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- มนุษย์เงินเดือนต้องรู้ ! กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คืออะไร ?
- วางแผนเกษียณยังไง ? ให้สบายใจในอนาคต วางแผนง่าย ๆ ฉบับมนุษย์เงินเดือน
- ประกันชีวิตแบบไหนดี? วิธีเลือกซื้อประกันชีวิตให้ได้สิทธิประโยชน์สูงสุด ปี 2567
กองทุน Thai ESG คืออะไร?
กองทุน Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ของไทย โดยจุดเด่นของกองทุนนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับบริษัทที่มี 3 องค์ประกอบของความยั่งยืนนั่นก็คือ 1. คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environment) 2. ส่งเสริมพัฒนาสังคม (Social) และ 3. มีบรรษัทภิบาลที่ดี (Governance) ค่ะ
โดยองค์ประกอบทั้ง 3 อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากค่ะ เพราะบริษัทที่มีความยั่งยืนนั้นจะหมายความว่าบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี ทำให้นักลงทุนมองเห็นโอกาสในการแสวงหาผลตอบแทนในระยะยาวได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าทำไม ESG ถึงมีความสำคัญในยุคปัจจุบัน? คุณน้าก็เคยเขียนเรื่องการลงทุน ESG ไว้แล้ว โดยคุณสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมที่ลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
สินทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG นำเงินไปลงทุนมีอะไรบ้าง?
- หุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยบริษัทต้องมีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ตราสารหนี้ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ความยั่งยืน
- หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET และ mai ที่ได้รับการคัดเลือกจาก SET ESG Rating ตามหลักของความยั่งยืนค่ะ
กองทุน Thai ESG ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีได้ไหม?
หากถามว่า กองทุนรวมประเภทนี้ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีได้ไหม คุณน้าก็ขอตอบว่า ได้ค่ะ โดยผู้ซื้อกองทุน Thai ESG สามารถนำจำนวนเงินที่ซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ปีภาษี 2024 จนถึงปีภาษี 2026 ซึ่งเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี มีรายละเอียด ดังนี้
- สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี หรือไม่เกิน 300,000 บาท (เดิมสูงสุด 100,000 บาท)
- ถือหน่วยลงทุน 5 ปีขึ้นไปนับตั้งแต่วันซื้อ โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี (เดิมถือหน่วยลงทุน 8 ปี)
- ไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ
- สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2026
กองทุน Thai ESG แตกต่างจากกองทุน SSF และ RMF อย่างไร?
หลังจากที่เราได้รู้ความหมายของกองทุน Thai ESG ไปแล้วนะคะ จะเห็นได้ว่า ลักษณะของกองทุนรวมประเภทนี้จะเน้นไปที่ตราสารหนี้และหุ้นที่มีความยั่งยืนเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกด้วยค่ะ แล้วอย่างนี้หลาย ๆ คนคงสงสัยว่า กองทุนรวมประเภทนี้สามารถลดหย่อนภาษีได้ แล้วจะแตกต่างจากกองทุนรวม RMF หรือ SSF อย่างไร? คุณน้าก็จะขอยกตัวอย่างตารางเปรียบเทียบกองทุน Thai ESG, SSF และ RMF เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
ความแตกต่างของกองทุน Thai ESG, SSF และ RMF
Thai ESG | SSF | RMF | |
สินทรัพย์ที่ลงทุนได้ | หุ้นและตราสารหนี้ไทยที่เข้าเกณฑ์ ESG | ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศ | ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศ |
ระยะเวลาการถือลงทุน | ไม่น้อยกว่า 8 ปี (ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี) | ไม่น้อยกว่า 10 ปี (ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี) | ไม่น้อยกว่า 5 ปี และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปี (สามารถถือต่อเนื่องทุกปีหรือปีเว้นปีได้) |
ปีที่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี | ปี 2023 – ปี 2032 | ปี 2020 – ปี 2024 | ไม่กำหนด |
กองทุน Thai ESG เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการลงทุนในบริษัทที่มีความยั่งยืนและมีพื้นฐานดี
- ผู้ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
- ผู้ที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
- ผู้ที่ต้องการวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม นอกจากกองทุน SSF และ RMF
📢 คำแนะนำจากคุณน้า
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า ทั้งกองทุน Thai ESG, SSF และ RMF มีความแตกต่างกันค่ะ ซึ่งการคัดเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับตนเองนั้น คุณน้าขอแนะนำว่าผู้ลงทุนควรเลือกจากเป้าหมายการใช้ชีวิตของตนเอง หากคุณต้องการเน้นการลงทุนในระยะเวลา 10 ปี คุณน้าก็ขอแนะนำกองทุน Thai ESG หรือ SSF เพราะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อครบ 8 ปี และ 10 ปีค่ะ
แต่สำหรับใครที่ต้องการเก็บเงินหลังเกษียณอายุ คุณน้าก็ขอแนะนำกองทุน RMF เพราะคุณสามารถทยอยเก็บเงินลงทุนได้ค่ะ อีกทั้งยังสามารถซื้อปีเว้นปีได้ ทำให้ระยะเวลาในการเก็บเงินจะมากกว่ากองทุน Thai ESG และ SSF หรือหากคุณต้องการถือหน่วยลงทุนเมื่ออายุ 50 ปี ซึ่งอีก 5 ปีต่อมา คุณสามารถขายหน่วยลงทุนได้เช่นเดียวกันค่ะ ทั้งนี้ การเลือกลงทุนก็ล้วนขึ้นอยู่กับเป้าหมายการใช้ชีวิตของแต่ละคน เนื่องจากเงื่อนไขและการประเมินความเสี่ยงของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไปนั่นเองค่ะ
จุดเด่น-จุดด้อยของกองทุน Thai ESG
จุดเด่น
- ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ผู้ลงทุนจะได้รับ
- ส่งเสริมการเก็บออมระยะยาว เพราะกองทุน Thai ESG ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นเวลา 8 ปีค่ะ
- ไม่กำหนดขั้นต่ำในการลงทุน
จุดด้อย
- ลงทุนเฉพาะหุ้นและตราสารหนี้ของไทยเท่านั้น ทำให้ตัวเลือกในการลงทุนน้อย
- สิทธิประโยชน์ทางภาษีน้อยกว่ากองทุน SSF และ RMF
เปิดโพย 5 กองทุน Thai ESG ผลตอบแทนสูง ปี 2024
ในปัจจุบันจำนวนกองทุน Thai ESG มีทั้งหมดถึง 22 กองทุน จาก 16 บลจ. ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกสรรกองทุนได้อย่างหลากหลายค่ะ โดยในบทความนี้ คุณน้าจะขอแนะนำ 5 กองทุน Thai ESG ที่ให้ผลตอบแทนสูง ซื้อกองไหนดี? ปี 2024 เพื่อประกอบการพิจารณา จะมีกองทุน Thai ESG ไหนน่าสนใจบ้าง? ไปติดตามกันค่ะ!
กองทุนรวมบัวหลวงทศพลไทยเพื่อความยั่งยืน : B-TOP-THAIESG
- บลจ. : BBLAM
- ระดับความเสี่ยง : 6 -กองทุนรวมตราสารทุน-
- ลงทุนขั้นต่ำ : ซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป 500 บาท
- นโยบายจ่ายปันผล : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย : ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุนต่อปี : 1.61% ต่อปี
- ผลตอบแทนปี 2024 : 3.68% (3 เดือน)
* ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 เมษายน 2024
กองทุนเปิด แอสเซทพลัส หุ้นไทยเพื่อความยั่งยืน : ASP-ThaiESG
- บลจ. : ASP
- ระดับความเสี่ยง : 6 -กองทุนรวมตราสารทุน-
- ลงทุนขั้นต่ำ : ซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
- นโยบายจ่ายปันผล : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย : ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุนต่อปี : 1.61% ต่อปี
- ผลตอบแทนปี 2024 : 1.21% (3 เดือน)
* ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 เมษายน 2024
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ไทยผสมยั่งยืน [ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน : SCBTM(ThaiESG)]
- บลจ. : SCBAM
- ระดับความเสี่ยง : 5 -กองทุนรวมผสม-
- ลงทุนขั้นต่ำ : ซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป 1,000 บาท
- นโยบายจ่ายปันผล : จ่าย
- ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย : ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุนต่อปี : 0% ต่อปี
- ผลตอบแทนปี 2024 : 1.98% (3 เดือน)
* ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 เมษายน 2024
กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ทไทยเพื่อความยั่งยืน-ไทยเพื่อความยั่งยืนปันผล : KFTHAIESGD
- บลจ. : KSAM
- ระดับความเสี่ยง : 6 -กองทุนรวมตราสารทุน-
- ลงทุนขั้นต่ำ : ซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป 500 บาท
- นโยบายจ่ายปันผล : จ่าย
- ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย : ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุนต่อปี : 0.7% ต่อปี
- ผลตอบแทนปี 2024 : 3.77% (3 เดือน)
* ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 เมษายน 2024
กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) : KTAG-ThaiESG
- บลจ. : KTAM
- ระดับความเสี่ยง : 6 -กองทุนรวมตราสารทุน-
- ลงทุนขั้นต่ำ : ซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป 0 บาท
- นโยบายจ่ายปันผล : จ่าย
- ค่าธรรมเนียมซื้อ-ขาย : ยกเว้น
- ค่าใช้จ่ายกองทุนต่อปี : 1.88% ต่อปี
- ผลตอบแทนปี 2024 : 2.39% (3 เดือน)
* ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 24 เมษายน 2024
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกองทุน Thai ESG
Thailand ESG คืออะไร?
Thailand ESG คือ คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ของไทยเป็นหลักค่ะ
กองทุน Thai ESG กองไหนดี?
คุณน้าขอแนะนำ 5 กองทุน Thai ESG ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ประจำปี 2024 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. B-TOP-THAIESG
2. ASP-ThaiESG
3. SCBTM(ThaiESG)
4. KFTHAIESGD
5. KTAG-ThaiESG
กองทุน ESG ต้องถือกี่ปี
นโยบายการลงทุนของกอง Thai ESG คือ ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 8 ปีค่ะ
Thai ESG ลดหย่อนภาษีได้ไหม?
กองทุน Thai ESG สามารถลดหย่อนภาษีได้ค่ะ โดยมีเงื่อนไข คือ ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 100,000 บาท อีกทั้งผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นเวลา 8 ปี ซึ่งไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปีได้ค่ะ
กองทุน ESG เหมาะกับใคร?
กองทุน ESG เหมาะกับผู้ที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีและต้องการลงทุนในระยะยาวนั่นเองค่ะ
สรุป กองทุน Thai ESG
กองทุน Thai ESG ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนใหม่ที่น่าสนใจค่ะ เนื่องจากเป็นกองทุนที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ อีกทั้งยังไม่มีการกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ ซึ่งเหมาะกับใครที่ต้องการลงทุนในระยะยาวหรือต้องการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งกองทุนประเภทนี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์เลยทีเดียวค่ะ
อย่างไรก็ดี ทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของกองทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและสิทธิประโยชน์ด้านภาษีให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนค่ะ และในบทความนี้ คุณน้าพาเทรดจะพาทุกคนไปรู้จักกับสินทรัพย์ประเภทไหน โปรดติดตามกันค่ะ!
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge