Forex 101 : Stop Loss คืออะไร? ทำไมมือใหม่ต้องรู้จัก

Forex 101 : Stop Loss คืออะไร? ทำไมมือใหม่ต้องรู้จัก

ตั้งเป็น Stop loss คืออะไร
Table of Contents

ในการเทรด Forex นักลงทุนบางคนต้องนั่งจ้องหน้าจอทั้งวันเพื่อดูว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน แล้วจึงทำการปิดออเดอร์ แต่คุณน้ามีคำสั่งง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาคอยดูกราฟตลอดเวลา แล้วยังช่วยตัดขาดทุนเพื่อไม่ให้โดนล้างพอร์ตหรือไม่ขาดทุนมากเกินไป ซึ่งสิ่งนั้น ก็คือ คำสั่ง Stop Loss หรือเรียกสั้น ๆ ว่า SL นั่นเองค่ะ

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ค่อยรู้จักคำสั่ง SL ในบทความคุณน้าจะพาไปเจาะลึกกับคำสั่ง Stop Loss ให้มากขึ้นว่าคืออะไร และควรตั้งค่าอย่างไรให้ไม่ขาดทุนมากเกินไปกันค่ะ

stop loss order

Stop Loss คืออะไร?

Stop Loss คือ คำสั่งปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อถึงราคาที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นการป้องกันความเสี่ยงอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุนไม่ขาดทุนมากเกินไปจนถูกล้างพอร์ตค่ะ

การตั้งค่าคำสั่ง SL นั้นเปรียบเสมือนการที่เราออกคำสั่งล่วงหน้าไว้กับโบรกเกอร์ที่ใช้บริการ หลังจากนั้นโบรกเกอร์จะทำตามคำสั่ง SL ที่วางไว้ แม้ว่า จะไม่ได้เปิดอุปกรณ์หรือเชื่อมต่อบัญชีเทรดอยู่ก็ตาม ซึ่งถ้าหากไม่มีเวลาติดตามราคาตลาดอยู่ตลอด การตั้ง SL เอาไว้จะช่วยให้ตัดขาดทุนได้ตามที่ต้องการหรือช่วยไม่ให้พอร์ตแตกได้ค่ะ

ทำไมต้องตั้ง Stop Loss?

คุณน้าจะอธิบายว่าทำไมต้องตั้งคำสั่ง Stop Loss นั่นก็เพราะว่า Stop Loss เป็นเครื่องมือที่ใช้บริหารความเสี่ยงที่ช่วยปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติ เมื่อราคาเคลื่อนที่มาถึงระดับที่กำหนด ดังนั้น นักลงทุนจึงสามารถใช้ควบคุมความเสี่ยงและจัดการการขาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป้าหมายหลักของคำสั่งนี้ คือ การจำกัดการขาดทุน หากราคาสินทรัพย์ทรัพย์ลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ค่ะ

สมมติว่านักลงทุนซื้อคู่สกุลเงินไว้ แล้วไม่อยากให้ขาดทุนเกิน 5% คุณน้าก็จะแนะนำให้ตั้ง Stop Loss ไว้ที่ -5% ค่ะ เพื่อไม่ให้ขาดทุนมากกว่าที่วางแผนไว้

ทั้งนี้ การใช้คำสั่ง Stop Loss ยังช่วยลดการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจลงทุนอีกด้วยค่ะ เช่น การถือสินทรัพย์ที่ขาดทุนเพราะหวังว่าราคาจะกลับมาฟื้นตัวได้ นอกจากนี้ คำสั่ง SL ยังเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถติดตามพอร์ตการลงทุนของตนได้ตลอดเวลา ช่วยให้พวกเขามั่นใจได้ว่าการลงทุนยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ค่ะ

ข้อดีและข้อระวังของการตั้ง Stop Loss

Stop Loss (SL) มีทั้งข้อดีและข้อที่ควรระวัง แต่ถ้าใช้ SL เป็น คุณน้ารับรองว่าจะช่วยให้เทรดได้อย่างสบายใจมากขึ้นแน่นอนค่ะ

ข้อดีของการใช้ Stop Loss

  • จำกัดการขาดทุน หากราคาเคลื่อนที่ถึงจุดที่ตั้งไว้ ระบบจะปิดออเดอร์ให้อัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องมานั่งลุ้นให้เครียดค่ะ
  • ลดโอกาสพอร์ตแตก ป้องกันไม่ให้เงินในพอร์ตหายไปทั้งหมด เพราะได้ตั้งจุดตัดขาดทุนเอาไว้แล้วค่ะ
  • ตัดอารมณ์ออกจากการเทรด ทั้งความโลภและความกลัว ไม่ต้องเผลอปิดออเดอร์ เพราะความตกใจ หรือรอให้ราคากลับมาจนขาดทุนมากกว่าเดิม

ข้อควรระวังของการใช้ Stop Loss

  • ตั้งใกล้เกินไป อาจโดนตัดขาดทุนเร็ว ตลาดมีความผันผวนมาก หากราคาเกิดเหวี่ยงนิดเดียวก็โดน SL แล้ว ทำให้อดรอลุ้นกำไรได้เลยค่ะ
  • ความผันผวนทำให้ SL ทำงานก่อนกำหนด บางครั้งราคาขึ้น ๆ ลง ๆ เร็วเกินไป อาจโดนตัดขาดทุนแบบไปไม่จำเป็นได้ค่ะ
  • ปัญหาทางเทคนิคของแพลตฟอร์ม บางช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนหนัก หรือระบบมีปัญหา คำสั่ง SL อาจจะไม่ทำงาน ดังนั้น เราจึงควรตรวจเช็กเสมอ เพื่อป้องกันความผิดพลาดค่ะ

วิธีการตั้งค่า Stop Loss (SL) ใน MT5

การตั้งค่า Stop Loss (SL) สามารถตั้งในแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์หรือโปรแกรมเทรดของนักลงทุนได้เลยค่ะ แต่ในบทความนี้คุณน้าจะบอกวิธีการตั้งค่า Stop Loss ใน MT5 โดยนักลงทุนสามารถตั้ง Stop Loss ได้ในขณะที่กำลังตั้งคำสั่งเปิดออเดอร์ได้เลยค่ะ หรือตั้งหลังเปิดออเดอร์ได้เช่นกันค่ะ

วิธีการตั้งค่า Stop Loss ใน MT5

ประเภทของ Stop Loss

Fixed Stop Loss 

Fixed Stop Loss คือ การตั้ง Stop Loss (SL) ที่ราคาคงที่ตั้งแต่แรก โดยไม่เปลี่ยนแปลงตามราคาสินทรัพย์หรือคู่เงินในตลาด Forex ซึ่งการตั้ง SL แบบนี้ คุณน้าแนะนำสำหรับนักลงทุนที่อยากกำหนดจุดขาดทุนแน่นอนไว้ตั้งแต่แรกค่ะ

Trailing Stop Loss

Trailing Stop Loss คือ การตั้ง Stop Loss (SL) ที่สามารถปรับเปลี่ยนจุดได้อัตโนมัติ โดยเมื่อพอร์ตเริ่มได้กำไร จุด SL ที่ตั้งไว้จะเปลี่ยนตามอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (RRR) ซึ่งการตั้ง SL แบบนี้จะช่วยล็อกกำไรที่ได้และยังป้องกันการขาดทุนเกินกำหนดได้

Guaranteed Stop Loss

Guaranteed Stop Loss คือ การตั้ง Stop Loss (SL) ที่แพลตฟอร์มหรือโปรแกรมเทรดที่รับประกันว่าคำสั่ง SL จะถูกปิดเสมอตามจุดที่ตั้งไว้แน่นอนค่ะ ซึ่งการตั้ง SL แบบนี้จะช่วยป้องกันความผันผวนรุนแรง แต่บางทีอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมนะคะ

ตั้ง Stop Loss (SL) ยังไงให้เหมาะสม?

การตั้ง Stop Loss (SL) ไม่มีสูตรตายตัวนะคะ เพราะนักลงทุนแต่ละคนมีสไตล์หรือการวางแผนที่ต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม การตั้ง SL ไม่ใช่แค่สุ่ม ๆ เอานะคะ นักลงทุนต้องดูปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย ทั้งแนวโน้มตลาดและเศรษฐกิจ ซึ่งนักลงทุนสามารถนำเครื่องมือทางเทคนิค (Indicator) มาช่วยเพื่อหาจุดตั้งได้นะคะ โดยในบทความนี้คุณได้รวบรวมเทคนิคการตั้ง SL ที่นิยมใช้มาให้ดู ดังนี้ค่ะ

เทคนิคการตั้ง Stop Loss แบบคงที่

เทคนิคการตั้ง Stop Loss (SL) แบบคงที่ คือ นักลงทุนต้องกำหนดก่อนว่า ยอมขาดทุนได้แค่ไหนค่ะ หลังจากนั้นนักลงทุนสามารถตั้ง SL แบบคงที่ได้ 2 แบบง่าย ๆ

  • ตั้งตามเปอร์เซ็นต์ของพอร์ต โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ที่ 5-20% ของเงินทุน ถ้าหากเกินกว่านี้อาจเสี่ยงเกินไปค่ะ
  • ตั้งตามจำนวน Pips โดยดูการเคลื่อนไหวของราคาว่าขึ้นลงแค่ไหน แล้วจึงตั้ง SL ให้ตามที่กำหนดขาดทุนไว้ค่ะ

เทคนิคการใช้แนวรับแนวต้าน ช่วยตั้ง Stop Loss 

เทคนิคการตั้ง Stop Loss (SL) ด้วยแนวรับแนวต้าน เป็นเทคนิคที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักใช้กัน ซึ่งการตั้งแนวรับจะตั้งเส้น ณ ราคาสำคัญที่ราคาจะไม่ลดลงต่ำกว่านี้ และการตั้งแนวต้าน จะตั้งเส้น ณ ราคาสำคัญที่ราคาจะไม่เพิ่มสูงกว่านี้ โดยการตั้ง SL ตามแนวรับแนวต้านสามารถตั้งได้ ดังนี้

  • หากเปิดออเดอร์ Buy (Long Position) ควรตั้ง SL ไว้ที่แนวรับ
  • หากเปิดออเดอร์ Sell (Short Position) ควรตั้ง SL ไว้ที่แนวต้าน

นักลงทุนสามารถใช้เครื่องมือทางเทคนิค (Indicator) มาช่วยหาแนวรับแนวต้านให้แม่นยำขึ้นได้นะคะ จะได้ตั้ง SL ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ

เทคนิคการใช้ Indicator ช่วยตั้ง Stop Loss ให้แม่นยำขึ้น

การตั้ง SL โดยใช้เครื่องมือทางเทคนิค (Indicator) ช่วยให้สามารถตั้ง SL ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นค่ะ ซึ่งเครื่องมือทางเทคนิค (Indicator) ที่นิยมนำมาใช้ช่วยตั้งจุด SL ได้แก่ Stochastic, MACD, RSI, MA และ Bollinger Bands 

แต่คุณน้ายังมีเครื่องมือทางเทคนิค (Indicator) ที่ช่วยตั้งจุด SL มาแนะนำอีก 2 แบบ คือ Average True Range (ATR) และ Fibonacci Retracement ค่ะ

การตั้งจุด Stop Loss ด้วย Average True Range (ATR)

Average True Range (ATR) คือ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้วัดระดับความผันผวนของราคา โดย ATR จะแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์หรือคู่เงินมีการเคลื่อนไหวโดยเฉลี่ยมากน้อยแค่ไหนค่ะ

การตั้งจุด SL ด้วย Average True Range (ATR) สามารถตั้งได้ ดังนี้

  • หากเปิดออเดอร์ Buy (Long Position) ควรตั้ง SL = ราคาเปิดออเดอร์ – ATR (เลขวิเคราะห์ด้วย ATR ณ จุดเปิด)
  • หากเปิดออเดอร์ Sell (Short Position) ควรตั้ง SL = ราคาเปิดออเดอร์ + ATR (เลขวิเคราะห์ด้วย ATR ณ จุดเปิด)

การตั้งจุด Stop Loss ด้วย Average True Range (ATR)

🔍 คุณน้าขอยกตัวอย่าง การตั้ง SL ด้วย ATR ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น โดยถ้าหากนักลงทุนเปิดออเดอร์ Sell คู่เงิน USDTHB ณ ราคา 33.837 บาท เลขที่วิเคราะห์ด้วย ATR ที่จุดเปิดออเดอร์ คือ 0.106 ซึ่งจะได้จุดตั้ง SL ที่ 33.943 ด้วยการนำ 33.837 บวกกับ 0.106 ค่ะ


การตั้งจุด Stop Loss ด้วย Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement คือ เครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยหาแนวรับแนวต้าน โดยสามารถใช้ตั้ง SL ได้ที่แนวรับแนวต้านสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดทุน ซึ่งการตั้ง Stop Loss (SL) ที่เหมาะสม นักลงทุนนิยมตั้งจุดกันที่ 50% หรือ 61.8%  เพราะเป็นจุดสำคัญที่ราคาอาจมีการกลับตัวหรือพักตัวตามหลักอัตราส่วน Fibonacci ค่ะ 

  • หากเปิดออเดอร์ Buy (Long Position) จะตั้งจุด Stop Loss (SL) ต่ำกว่าระดับ Fibonacci ถัดไป เพื่อป้องกันการขาดทุนมากกว่าที่ตั้งไว้ หากราคาลดลงและทะลุแนวรับ
  • หากเปิดออเดอร์ Sell (Short Position) จะตั้งจุด Stop Loss (SL) สูงกว่าระดับ Fibonacci ถัดไป เพื่อป้องกันการขาดทุนมากกว่าที่ตั้งไว้ หากราคาสูงขึ้นและทะลุแนวต้าน

การตั้งจุด Stop Loss ด้วย Fibonacci Retracement

🔍 คุณน้าขอยกตัวอย่าง การตั้งจุด SL ด้วย Fibonacci Retracement ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ โดยถ้าหากนักลงทุนเปิดออเดอร์ Buy คู่เงิน USDTHB ณ ราคา 33.923 บาท โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 34.156 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 33.548 บาท ซึ่งจะใช้ Fibonacci Retracement วาดเส้นจาก 34.156 บาทไปยัง 33.548 บาท ระดับ Fibonacci ที่ 61.8% จะอยู่ที่ประมาณ 33.923 บาท นักลงทุนอาจจะตั้งจุด SL ต่ำกว่า 33.852 บาท เพื่อป้องกันการขาดทุนเกินกำหนดค่ะ


เทคนิค Trailing Stop Loss

Trailing Stop Loss คือ การตั้ง Stop Loss (SL) แบบปรับเปลี่ยนหรือเลื่อนตามกำไร โดยถ้าราคาเป็นไปตามที่นักลงทุนเปิดออเดอร์ SL ก็จะเลื่อนตามราคาอัตโนมัติ ทำให้สามารถป้องกันการขาดทุนเกินกำหนดได้ แล้วที่สำคัญยังสามารถช่วยล็อกกำไรไว้ได้ด้วยค่ะ

  • หากเปิด Buy (Long Position) Stop Loss (SL) จะเลื่อนขึ้นตามราคาสูงสุดใหม่ แล้วถ้าราคาตกลงมาตามระยะที่กำหนดออเดอร์จะถูกปิดอัตโนมัติ
  • หากเปิด Sell (Short Position) Stop Loss (SL) จะเลื่อนลงตามราคาต่ำสุดใหม่ แล้วถ้าราคากลับขึ้นมาตามระยะที่กำหนด ออเดอร์ก็จะถูกปิดอัตโนมัติค่ะ

เทคนิค Trailing Stop เหมาะกับนักลงทุนที่อยากทำกำไรได้มากกว่าที่ตั้ง TP ไว้ แต่ก็ยังอยากมีแผนป้องกันการขาดทุนและจะใช้ได้ดีมากกับตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Stop Loss

ทำไมบางครั้งราคาชน Stop Loss แล้วกลับตัว?

อาจเกิดจากการตั้ง SL ใกล้เกินไป หรือเกิด Hunting โดยราคาไปชน SL ก่อนราคาจะกลับตัว ซึ่งคุณน้าแนะนำให้ใช้แนวรับแนวต้านหรือ ATR ช่วยตั้ง SL เพื่อช่วยไม่ให้ตั้ง SL ใกล้เกินไป

Stop Loss แบบ Fixed กับ Trailing ต่างกันอย่างไร?

Stop Loss แบบ Fixed เป็นการตั้งจุดที่จะไม่เปลี่ยนแปลงตามราคา แต่ Trailing จะเลื่อนตามทิศทางราคาสินทรัพย์ โดยเลื่อนขึ้นหรือลงตามออเดอร์ที่เปิด เพื่อล็อกกำไร

Cut Loss คืออะไร?

Cut Loss คือ การขายสินทรัพย์ออกไปในตอนที่ขาดทุนอยู่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ขาดทุนไปมากกว่าเดิมจนพอร์ตแตกค่ะ

Stop Loss กับ Cut Loss ต่างกันอย่างไร?

Cut Loss ต้องปิดออเดอร์ด้วยตนเอง แต่ Stop Loss เป็นการปิดออเดอร์อัตโนมัติ โดยสามารถตั้งคำสั่งล่วงหน้าได้ค่ะ

สรุป Stop Loss คืออะไร?

Stop Loss (SL) คือ คำสั่งปิดออเดอร์อัตโนมัติ เพื่อป้องกันการขาดทุนมากเกินไปหรือป้องกันพอร์ตแตก ถ้าหากราคาวิ่งไปผิดทางกับออเดอร์ที่เปิด ซึ่ง SL จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้นักลงทุนมีวินัยและลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้ การตั้ง SL ไม่มีสูตรตายตัว เพราะนักลงทุนแต่ละคนมีสไตล์หรือแผนการลงทุนที่ต่างกัน ดังนั้นต้องเลือกวิธีที่เหมาะกับนักลงทุนที่สุด เพื่อช่วยให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ

การลงทุนในตลาด Forex ที่มีความผันผวนสูง นอกจากนักลงทุนจะศึกษาเรื่อง SL และ TP ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนแล้ว นักลงทุนควรศึกษาปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน เช่น ข่าวเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มราคาตลาด เพื่อช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและช่วยบริหารความเสี่ยงในการลงทุนให้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ : คลิกที่นี่

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : คลิกที่นี่

คลังความรู้จากคุณน้า : คลิกที่นี่

Picture of คุณหลาน
คุณหลาน
Recent Post
Requotes Forex คืออะไร
Requotes Forex คืออะไร สถานการณ์ไม่คาดคิดที่เทรดเดอร์ต้องรู้

Requotes หรือสถานการณ์ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดกับการเทรดของตนเอง เพราะไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญให้กับเทรดเดอร์ แต่ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับเทรดเดอร์ได้อีกด้วย แท้จริงแล้ว Requotes คืออะไรกันแน่ ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ