ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? ใครต้องจ่ายบ้าง - Knowledge

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? ใครต้องจ่ายบ้าง

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร? ใครต้องจ่ายบ้าง ?
Table of Contents

ทุกคนรู้จักกับคำว่า “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” กันไหมคะ? หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันแบบผ่าน ๆ มาบ้าง ภาษีถือเป็นเรื่องใกล้ตัวกับคนในวัยทำงานที่ควรศึกษาไว้ ถ้าพูดถึงภาษีทุกคนก็คงจะนึกถึงภาษีเงินได้บุคคลหรือภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วคำว่า “ภาษีธุรกิจเฉพาะ” คืออะไร ? วันนี้คุณน้าจะมาไขข้อสงสัยและพาไปทำความรู้จักกับภาษีธุรกิจเฉพาะ ติดตามกันได้ในบทความนี้เลยค่ะ

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร?

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร?

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีทางอ้อมที่เรียกเก็บกับธุรกิจบางประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะไม่คำนวณรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้จัดเก็บคือ กรมสรรพากร ไม่ว่าจะในรูปแบบของบุคคลธรรมดา นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญ กองทุน หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน และจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันเริ่มกิจการด้วยการยื่นแบบคำขอ ภ.ธ.01

🔍 เกร็ดความรู้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ นับปียังไง?

การนับภาษีธุรกิจเฉพาะจะนับแบบวันชนวันค่ะ โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่ได้มาไปจนถึงวันโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์นั้น


ธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ?

ธุรกิจไหนบ้างที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  • ธุรกิจการธนาคาร 
  • ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
  • ธุรกิจประกันชีวิต
  • ธุรกิจรับจำนำ
  • การประกอบธุรกิจเหมือนธนาคารพาณิชย์
  • ธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์
  • ธุรกิจ Factoring

** ยกเว้น ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการที่มียอดขายไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ ปี

ใครบ้างที่จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ?

บุคคลที่จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ผู้ประกอบกิจการที่ทำธุรกิจเฉพาะ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • บุคคลธรรมดา
  • คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
  • กองมรดก
  • ห้างหุ้นส่วนสามัญ
  • กองทุน
  • หน่วยงานหรือกิจการของเอกชน
  • องค์การของรัฐบาลและสหกรณ์

ฐานภาษีและอัตราภาษีสำหรับธุรกิจเฉพาะ

ฐานภาษีที่นำมาคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ รายรับก่อนหักรายจ่ายที่ผู้ประกอบกิจการได้รับ ซึ่งวิธีคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะทำได้โดยนำรายรับจากฐานภาษีของธุรกิจแต่ละประเภทคูณด้วยอัตราภาษีที่กำหนดไว้และคำนวณการเสียภาษีท้องถิ่นเพิ่มอีก 10% ของจำนวนภาษีธุรกิจเฉพาะค่ะ สามารถเช็กฐานภาษีและอัตราภาษีเพิ่มเติมได้ตามรูปด้านล่างนี้เลย

ตารางฐานภาษีและอัตราภาษีสำหรับธุรกิจเฉพาะ

การชำระภาษีธุรกิจเฉพาะ

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี โดยยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.40) และชำระภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป สามารถยื่นได้ 2 ช่องทางคือ แบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรและยื่นแบบกระดาษที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ค่ะ

ตัวอย่างการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ

การคำนวณภาษีเฉพาะ มีสูตรการคำนวณง่าย ๆ ดังนี้

ภาษีธุรกิจเฉพาะ = [ฐานภาษีตามธุรกิจ x อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.0%] X อัตราภาษีท้องถิ่น 10%
ภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับขายบ้าน = ฐานภาษีตามธุรกิจ X อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาซื้อขาย

ยกตัวอย่างเช่น คุณ A ทำธุรกิจขายที่ดินพร้อมบ้าน มีรายได้สุทธิ 4,500,000 บาท อัตราภาษีที่ต้องเสีย คือ 3.3% ดังนั้น ภาษีธุรกิจเฉพาะที่ต้องจ่าย คือ (4,500,000 x 3.3) ÷ 100 = 148,500 บาท

สำหรับใครที่กลัวว่าจะคำนวณผิดพลาด คุณน้าขอแนะนำโปรแกรมคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะของสรรพากรค่ะ สามารถคำนวณได้ที่กรมสรรพากรเลยค่ะ


ขั้นตอนการขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ

สำหรับบุคคลที่มีสิทธิ์ขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ บุคคลที่มีหน้าที่ชำระภาษีแต่มีการชำระไว้เกิน ผิด หรือซ้ำ และบุคคลที่ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีแต่ได้ชำระภาษี โดยมีขั้นตอนการขอคืนได้ ดังนี้ค่ะ

  1. เขียนคำร้องขอคืนเงินภาษีอากรแบบ ค.10
  2. แนบเอกสารไปพร้อมคำร้อง ค.10 ได้แก่ หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (กรณีผู้ขอเป็นนิติบุคคล), ใบเสร็จรับเงินธุรกิจเฉพาะและหลักฐานเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับเรื่องที่ขอคืน
  3. สามารถยื่นคำร้องขอคืนได้ภายใน 3 ปี นับตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี

3 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ

📢 ภาษีธุรกิจเฉพาะ หากขายบ้านเสียภาษีอย่างไร?

ตอบ หากบุคคลธรรมดาขายบ้านที่ตนเองซื้อมาน้อยกว่า 5 ปี จะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะค่ะ แต่หากขายบ้านที่ตนเองซื้อมาเกิน 5 ปี ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีเฉพาะ แต่จะต้องเสียภาษีอากรแสตมป์แทน โดยอยู่ที่อัตรา 0.05% ต่อราคาซื้อขาย

สำหรับเงื่อนไขของการละเว้นการเสียภาษีเฉพาะ เมื่อขายบ้านมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

  • การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางมรดก
  • การขายบ้านหรือถูกเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
  • การขายบ้านที่ผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรไม่น้อยกว่า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์

📢 ภาษีธุรกิจเฉพาะ ที่ดินเสียภาษีอย่างไร?

ตอบ สำหรับภาษีที่ดิน สำหรับการเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ จะต้องเป็นที่ดินทางการค้าหรือการหากำไรค่ะ ซึ่งจะต้องเสียภาษีในอัตรา 3.3% ของราคาซื้อขาย หรือราคาประเมิน แต่หากที่ดินไม่ใช่ทางการค้าหรือหากำไร เราไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่จะต้องเสียภาษีอากรแสตมป์ในอัตรา 0.03% ของราคาซื้อขายนั่นเองค่ะ

📢 กิจการใดไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 3.0%

ตอบ สำหรับกิจการที่ไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีทั้งหมด 7 กิจการ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • กิจการของธนาคารแห่งประเทศไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
  • กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  • กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์เฉพาะการให้กู้ยืมแก่สมาชิก
  • กิจการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • กิจการของการเคหะแห่งชาติเฉพาะการขายหรือการให้เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์
  • กิจการรับจำนำของกระทรวง, ทบวง, กรม และส่วนราชการท้องถิ่น
  • กิจการอื่นตามมาตรา 91/2 ตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา


📌 บทความเกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีธุรกิจเฉพาะ

ภาษีธุรกิจเฉพาะ ขายบ้านเสียภาษีอย่างไร?

การขายบ้านและที่ดินรวม หรือแม้แต่คอนโดถือว่าเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจัดอยู่ในหมวดกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมายกำหนด ทำให้ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะในอัตรา 3.3% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน โดยมีเงื่อนไขที่ต้องเสียภาษี ดังนี้

  • ถือครองบ้านหรือคอนโดน้อยกว่า 5 ปี
  • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านน้อยกว่า 1 ปี

ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเป็นภาษีประเภทใด?

ภาษีธุรกิจเฉพาะจัดเป็นภาษีประเภททางอ้อม ที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนด

ภาษีธุรกิจเฉพาะแตกต่างจากภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร?

ภาษีธุรกิจเฉพาะจะเรียกเก็บจากผู้ประกอบกิจการที่ประกอบธุรกิจตามกำหนดไว้ในกฎหมายว่าต้องเสียภาษี ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มจะเรียกเก็บจากผู้ขายสินค้าและบริการ ซึ่งภาษีทั้ง 2 อย่างนี้ จะไม่นำมาคำนวณรวมกันและมีอัตราภาษีที่ต่างกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ : อัตราภาษีอยู่ที่ 0.10-3.0%
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม : อัตราภาษีอยู่ที่ 7.0%

สรุปเรื่องภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร?

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ ภาษีที่เรียกเก็บกับผู้ประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ซึ่งภาษีธุรกิจเฉพาะจะไม่คำนวณรวมกับภาษีมูลค่าเพิ่ม จะเห็นได้ว่าเรื่องของภาษีธุรกิจเฉพาะครอบคลุมในหลายธุรกิจ แม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ก็ต้องชำระภาษีในส่วนนี้เพิ่มด้วย ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่าภาษีมีหลายประเภท ดังนั้นเราควรศึกษาเรื่องของภาษีให้เข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชำระค่าปรับจากการไม่ชำระภาษี หรือชำระล่าช้าจากการไม่รู้จักภาษีธุรกิจเฉพาะนั่นเองค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสรรพากร, ธนาคารกรุงไทย และ DDproperty


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
10 หนังสือการเงินและการลงทุนที่จะช่วยเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
10 หนังสือการเงินที่จะช่วยเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ

คุณน้าจะมาแนะนำ 10 หนังสือการเงินที่จะช่วยเปลี่ยนวิธีคิดเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของคุณให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนักลงทุนมือใหม่ควรอ่านเล่มไหนบ้าง? ห้ามพลาดบทความนี้เลยค่ะ!

วิเคราะห์ราคาทองคำ วันที่ 10-14 มีนาคม 2568
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 10-14 มีนาคม 2568 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 10-14 มีนาคม 2568 ซึ่งมีข่าวสำคัญจากสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับที่ 2,890 ดอลลาร์อีกครั้ง

หุ้น คืออะไร หุ้นสามัญต่างกับหุ้นบุริมสิทธิอย่างไร
Stock101: หุ้นคืออะไร? หุ้นสามัญต่างกับหุ้นบุริมสิทธิอย่างไร

ตราสารทุนหรือหุ้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ หุ้นสามัญ (Common Stock) และ หุ้นบุริมสิทธิ (Preferred Stock) โดยประเภทหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิแตกต่างกันอย่างไร? ไปหาคำตอบกันค่ะ!