SMC Forex คืออะไร? เทคนิคการเทรดของขาใหญ่!

SMC Forex คืออะไร? เทคนิคการเทรด Forex ของขาใหญ่ รู้ไว้จะได้ไม่ตกเทรนด์!
Table of Contents

SMC หรือ Smart Money Concept เป็นอีกหนึ่งทฤษฎีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากเทรดเดอร์รายย่อย เพราะ SMC จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้คุณได้ จากการศึกษาพฤติกรรมของเทรดเดอร์รายใหญ่ เพื่อให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนมาเจาะลึกกับทฤษฎีนี้ว่า SMC Forex คืออะไร? เทคนิคการเทรด Forex ของขาใหญ่ รู้ไว้จะได้ไม่ตกเทรนด์! ถ้าพร้อมกันแล้วไปเริ่มกันเลย!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนการลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน


SMC คืออะไร?

SMC Forex คืออะไร?

SMC หรือ Smart Money Concept คือ พฤติกรรมการเทรดของเหล่าเทรดเดอร์รายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน, ธนาคาร, นักเก็งกำไร และกองทุนอื่น ๆ ซึ่งการเทรดลักษณะนี้ จะมีทฤษฎีที่ว่า “เทรดเดอร์รายใหญ่จะเป็นผู้กำหนดทิศทางของตลาด ทำให้ราคาเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง จนส่งผลกระทบต่อราคาในขณะนั้นได้

⭐ SMC Forex คืออะไร?

SMC Forex ก็มีทฤษฎีแบบเดียวกัน คือ การศึกษาพฤติกรรมการเทรดของเหล่าเทรดเดอร์รายใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยให้เทรดเดอร์รายย่อยไม่ตกเทรนด์กะทันหัน เพราะสามารถปรับกลยุทธ์และเทคนิคให้ไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น การศึกษาทฤษฎี SMC Forex จึงถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้เทคนิคอื่น ๆ เหมือนกันค่ะ

ข้อดี-ข้อจำกัดของ SMC Forex

ข้อดี

  • เหมาะกับทุกตลาดทางการเงิน
  • ช่วยให้เทรดเดอร์รายย่อยเข้าใจพฤติกรรมของเทรดเดอร์รายใหญ่ได้มากขึ้น
  • เพิ่มโอกาสในการเก็งกำไร จากการจับจังหวะการเข้าซื้อและเทขายที่ถูกต้อง
  • ช่วยพัฒนากลยุทธ์ในการเทรดได้มากขึ้น
  • ช่วยให้สามารถมองตลาดในภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น

ข้อจำกัด

  • บางครั้งสัญญาณการเทรดอาจจะไม่ชัดเจน ทำให้เทรดเดอร์ต้องอาศัยการพิจารณาที่ถี่ถ้วนยิ่งขึ้น
  • การตีความอาจจะมีความซับซ้อน ขึ้นอยู่กับแง่มุมของเทรดเดอร์แต่ละคน
  • ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้หาแนวโน้มของตลาด หรือ FVG* Forex เป็นต้น

FVG คืออะไร?

FVG ย่อมาจาก Fair Value Gap คือ เทคนิคการวิเคราะห์กราฟด้วยตาเปล่าจากการศึกษาช่องว่างของราคาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อตลาดอยู่ในสภาพคล่องต่ำหรือสภาวะตลาดในช่วงไม่สมดุล

นอกจากนี้ FVG ยังมีความคล้ายคลึงกับ Price Pattern เพราะประกอบด้วยกราฟแท่งเทียนถึง 3 แท่ง มีลักษณะคล้ายคลึงกับ Three White Soldier (Bullish) และ Three Black Crows (Bearish) นั่นเอง


หลักการทำงานของ SMC Forex เป็นอย่างไร?

หลักการทำงานสำคัญของ SMC Forex คือ การวิเคราะห์ข้อมูลจากพฤติกรรมเทรดเดอร์รายใหญ่ เพื่อหาจังหวะในการเข้าซื้อและเทขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจโครงสร้างของ SMC ก่อนค่ะ จึงจะสามารถจับจังหวะทิศทางในตลาดได้ โดยโครงสร้างของ SMC สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ดังนี้

BOS (Break of Structure)การที่เทรนด์ Break ไปในทิศทางเดิม เพื่อทำ New High ใหม่ไปเรื่อย ๆ ตามแนวโน้มของตลาดเดิม
CHoCH (Change of Character)การกลับตัวของกราฟราคา

1. BOS (Break of Structure) คืออะไร?

สำหรับโครงสร้างแรกของ SMC นั่นก็คือ BOS (Break of Structure) รูปแบบกราฟราคาที่มีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดิม เมื่อกราฟราคาเกิดการ Break ทะลุแนวรับหรือแนวต้าน ซึ่งกราฟราคาจะทำ New High หรือ Lower Low ใหม่ไปเรื่อย ๆ ซึ่งการ New High – Lower Low จะสูงกว่าหรือต่ำกว่ากราฟราคาในปัจจุบัน

สำหรับข้อสังเกตของ BOS (Break of Structure) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

BOS Bullish

1.ราคาจะมีการย่อตัวลงมา จากนั้นราคาจะเกิดการปรับตัวขึ้นไป เพื่อทะลุ High เดิม เกิดเป็น Higher High ใหม่ไปเรื่อย ๆ ทำให้นักลงทุนเรียกพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า BOS Bullish

BOS Bearish

2. ราคาจะมีการปรับตัวขึ้นไป จากนั้นราคาจะเกิดการย่อตัวลงมา เพื่อทะลุ Low เดิม เกิดเป็น Lower Low ใหม่ไปเรื่อย ๆ ทำให้นักลงทุนเรียกพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า BOS Bearish

โดยปกติแล้ว กราฟของราคาจะเกิดการทะลุในแนวรับ-แนวต้านและเคลื่อนไหวไปตาม BOS เดิมอย่างต่อเนื่องค่ะ

⭐ เทคนิคการทำกำไรของ BOS (Break of Structure) ⭐

สำหรับเทคนิคการทำกำไรของ BOS (Break of Structure) อันดับแรก เราต้องทำความเข้าใจโครงสร้างของตลาดก่อนค่ะ เพื่อช่วยให้ศึกษาพฤติกรรมของราคาในแต่ละ Time Frame ได้ โดยในแต่ละ Time Frame ก็มีหลายกรอบเวลา ไม่ว่าจะเป็น 1 นาที, 5 นาที, 15 นาที, 30 นาที, 1 วัน, 1 เดือน ไปจนถึง 1 ปี เป็นต้น

หลังจากที่เทรดเดอร์ศึกษา Time Frame เรียบร้อยแล้ว เทรดเดอร์ก็จะมองหา Swing High และ Swing Low เพื่อรอจังหวะในการเข้าซื้อ เมื่อกราฟเกิดการย่อตัวนั่นเองค่ะ


2. CHoCH (Change of Character) คืออะไร?

มาต่อกันที่โครงสร้างอันดับที่ 2 ของ SMC นั่นก็คือ CHoCH เป็นรูปแบบกราฟราคาที่เกิดการกลับตัว เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไปจากเดิม ซึ่งบ่งบอกได้ว่า แนวโน้มก่อนหน้านี้อาจจะสูญเสียโมเมนตัม ทำให้เกิดเป็นแนวโน้มใหม่ขึ้นมาค่ะ 

สำหรับข้อสังเกตของ CHoCH สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้

CHoCH Bullish

1. ราคามีการปรับตัวลง หลังจากนั้นมีการดีดตัวขึ้นไปสูงกว่า High เดิมในแนวโน้มขาขึ้น ทำให้นักลงทุนเรียกพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า CHoCH Bullish

CHoCH Bearish

2. ราคามีการปรับตัวขึ้นไป หลังจากนั้นมีการกลับตัวลงไปต่ำกว่า Low เดิมในแนวโน้มขาลง ทำให้นักลงทุนเรียกพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า CHoCH Bearish

⭐ เทคนิคการทำกำไรของ CHoCH (Change of Character) ⭐

สำหรับเทคนิคการทำกำไรของ CHoCH (Change of Character) จะคล้ายคลึงกับ BOS คือ อันดับแรก คุณต้องทำความเข้าใจกับโครงสร้างของตลาด* ก่อนเช่นกันค่ะ 

จากนั้นให้คุณสังเกตว่า หากราคามีการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันและมีนัยสำคัญที่กราฟจะสวนทางกับแนวโน้มที่เกิดขึ้น ก็ถือว่า CHoCH ได้ถูกระบุสัญญาณเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นให้คุณหาจุดเข้าซื้อและเทขาย เมื่อราคาทะลุจุดต่ำสุดหรือสูงสุด

 *หมายเหตุ : ก่อนที่คุณจะทำกำไรจาก BOS และ CHoCH คุณอย่าลืมตั้งจุดตัดกำไร (Take Profit) และขาดทุน (Stop Loss) ให้เรียบร้อยก่อนนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในตลาดค่ะ

🔍 เกร็ดความรู้ โครงสร้างของตลาด คืออะไร?

โครงสร้างของตลาด (Market Structure) คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของราคาในกรอบเวลาต่าง ๆ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 

  • ตลาดเกิดการกลับตัว (Reversal Market) : ตลาดเกิดการกลับตัวจากแนวโน้มเดิม
  • ตลาดเกิดการทะลุกรอบ (Rotational Market) : ราคาเกิดการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ซึ่งอาจจะพุ่งขึ้นหรือดิ่งลงทะลุกรอบก็ได้
  • ตลาดเกิดเทรนด์ (Trend Market) : ราคาจะอยู่ในตลาดขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะแสดงถึงปริมาณการซื้อขายที่มากเกินไป (Overbought-Oversold)


2 ตัวช่วยในการหาแรงซื้อ-แรงขายในระบบเทรด SMC

หลังจากที่เราได้รู้จักกับโครงสร้างของ SMC (Smart Money Concept) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังมีอีก 2 ตัวช่วยสำคัญที่ใช้ในการระบุสัญญาณ BOS และ CHoCH อย่าง Order Block Forex และ Liquidity Grab หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันนี้ในชื่อว่าแรงซื้อ-แรงขายค่ะ

1. Order Block Forex คืออะไร?

Order Block Forex คืออะไร

Order Block Forex คือ พื้นที่บนกราฟราคาที่เทรดเดอร์รายใหญ่กำลังพยายามซื้อขายสินทรัพย์ เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการวางกลยุทธ์คำสั่งซื้อขายของพวกเขาเอง

โดยปกติแล้ว Order Block จะเป็นรูปแบบของกราฟราคาที่กระจุกตัวอยู่ในระดับใดระดับหนึ่ง ทำให้เกิดความผันผวนของราคาอย่างรุนแรง อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยระบุจุดกลับตัวและจุด Break Out ได้อีกด้วย

Order Block Forex มีความสำคัญต่อเทรดเดอร์รายย่อยเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของราคาได้จากการระบุแนวรับ-แนวต้าน เพื่อให้สามารถเทรดไปในทิศทางเดียวกับตลาด อีกทั้งยังช่วยประเมินการตัดสินใจและหาจังหวะในการซื้อขาย พร้อมกับช่วยคาดการณ์การตั้งจุดทำกำไร (Take Profit) และจุดขาดทุน (Stop Loss) ให้มีหลักการมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ Order Block Forex ยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถใช้งานร่วมกับ Indicator ชนิดอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็น RSI, Moving Average หรือแม้แต่ Fibonacci Retracement เป็นต้น

สรุปลักษณะของ Order Block Forex เป็นอย่างไร?

ปริมาณการซื้อขายมีจำนวนมากกว่าปกติ
บางครั้ง Order Block มักมาพร้อมกับ Head and Shoulders Pattern หรือกราฟที่มีการกลับตัว
กราฟราคามีการทะลุผ่าน Order Block ไปได้

📢ข้อควรระวังของ Order Block

รูปแบบของกราฟที่เกิด Order Block จะมีการเปลี่ยนแปลงทุก ๆ ครั้ง เนื่องจากพฤติกรรมของเทรดเดอร์รายใหญ่จะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของตลาด ดังนั้น เทรดเดอร์รายย่อยควรระมัดระวังการระบุสัญญาณ Order Block เพราะหลาย ๆ ครั้งอาจจะเกิดสัญญาณหลอกได้

2. Liquidity Grab คืออะไร?

Liquidity Grab คืออะไร

Liquidity Grab คือ ราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อตลาดมีสภาพคล่องต่ำ โดย Liquidity Grab จะเป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์รายใหญ่ใช้ดักจับเทรดเดอร์รายย่อยที่เทรดตามแนวโน้มของตลาด ทำให้หลาย ๆ ครั้ง เทรดเดอร์รายย่อยมักจะเกิดการขาดทุน

สรุปลักษณะของ Liquidity Grab เป็นอย่างไร?

การเคลื่อนไหวของราคาจะตรงข้ามกับแนวโน้มของตลาด
ปริมาณการซื้อขายมีมากกว่าปกติ
ราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง

📢 ข้อควรระวังของ Liquidity Grab

เทรดเดอร์ควรระมัดระวังการระบุสัญญาณ Liquidity Grab เมื่อตลาดอยู่ในช่วงสภาพคล่องต่ำ เพราะอาจจะเจอกับสัญญาณหลอกได้เช่นเดียวกับสัญญาณ Order Block ดังนั้น คุณควรใช้อินดิเคเตอร์เข้ามาช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด เพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SMC Forex คืออะไร?

SMC ย่อมาจากอะไร? 

SMC ย่อมาจาก Smart Money Concept คือ พฤติกรรมการเทรดของเหล่าเทรดเดอร์รายใหญ่ที่จะช่วยให้เทรดเดอร์รายย่อยสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการเทรด เพื่อหาจังหวะในการเข้าซื้อและเทขายได้ดีขึ้น

BOS กับ CHoCH ต่างกันยังไง? 

BOS (Break of Structure) คือ การที่เทรนด์ Break ไปในทิศทางเดิม เพื่อทำ New High ใหม่ไปเรื่อย ๆ ตามแนวโน้มของตลาด ส่วน CHoCH คือ การกลับตัวของกราฟราคา ซึ่งทั้ง 2 โครงสร้างนี้จะแตกต่างกันตรงทิศทางการเคลื่อนไหวของกราฟราคา

โครงสร้างของตลาด (Market Structure) ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

โครงสร้างของตลาด (Market Structure) จะประกอบไปด้วย 3 ประเภท ได้แก่ ตลาดเกิดการกลับตัว (Reversal Market), ตลาดเกิดการทะลุกรอบ (Rotational Market) และตลาดเกิดเทรนด์ (Trend Market)


สรุป SMC Forex คืออะไร?

ทั้งหมดนี้ก็คือ SMC หรือ Smart Money Concept ทฤษฎีการเทรด Forex ที่ถือว่า เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์รายย่อย เพราะจะช่วยให้คุณสามารถศึกษาพฤติกรรมราคาของเทรดเดอร์รายใหญ่ได้ อย่างไรก็ตาม เทคนิค SMC ต้องอาศัยประสบการณ์ในการศึกษาหาข้อมูล เพราะเป็นทฤษฎีที่ค่อนข้างซับซ้อน อีกทั้งยังเป็นทฤษฎีที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องใช้เครื่องมือการเทรดอื่น ๆ เข้ามาช่วยด้วย เพื่อให้การเทรดของคุณมีความแม่นยำมากที่สุด และที่สำคัญที่สุดสำหรับการเทรด Forex คือ อย่าลืมตั้งจุดทำกำไรและขาดทุนทุกครั้ง เพราะตลาด Forex มีความผันผวนแทบจะตลอดเวลา ซึ่งการตั้งจุดทำกำไรและขาดทุนจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรด

และในบทความหน้าคุณน้าจะพาทุกคนไปรู้จักกับกลยุทธ์อะไร? อย่าลืมติดตามกันให้ดีนะคะ ในวันนี้ทีมงานคุณน้าต้องลาไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Traderbobo


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
คู่มือเทรดสำหรับมือใหม่ โบนัสฟรี Forex คืออะไร?
โบนัสฟรี คืออะไร? มีขั้นตอนการรับอย่างไร!

ปัจจุบันโบรกเกอร์มีการงัดกลยุทธ์การตลาดมากมาย เพื่อใช้ในการดึงดูดเทรดเดอร์ให้เข้ามาใช้บริการ ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ “การให้โบนัสฟรี” นั่นเอง