หลังจากข่าวการฟื้นตัวของทางสหรัฐอเมริกา คราวนี้มาดูในฝั่่งของยุโรปกันบ้างดีกว่าค่ะ เพราะดูเหมือนว่าสกุลเงินยูโรนั้นจะมีการแข็งค่ามากขึ้นค่ะ
สำหรับเมื่อวานหรือวันจันทร์ที่ผ่านมา ดูเหมือนสกุลเงินยูโรนั้นจะแข็งค่าขึ้น 0.16% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ เพราะสามารถขยับไปแตะที่ 1 ยูโรต่อ 1.1720 ดอลลาร์สหรัฐค่ะ
เหตุนี้เพราะว่าบริษัทผู้ให้บริการในด้านการเงินมีการเปิดเผยเกี่ยวกับดีชนี PMI (PMI คือรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการในยูโรโซน หรือ Euro-zone Service Purchasing Manager Index) ซึ่งดัชนี PMI นี้ได้รวมทั้งภาคการผลิตและการบริการของทาง EUROZONE ด้วย ซึ่งในเดือนสิงหาคมนี้นั้นอยู่ที่ประมาณ 59.5 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเลยทีเดียวค่ะ เพราะมีการปรับลดระดับลงจากเดือนกรกฎาคมที่อยู่ที่ประมาณ 60.2
แต่ถึงแม้ว่าระดับดัชนี PMI จะปรับตัวลดลงแล้ว แต่ถ้าหากว่าอยู่ระดับสูงกว่า 50 นั้นจะถือว่าภาคธุรกิจของทาง Euro-zone นั้นยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องค่ะ
ที่น่าจับตามองต่อไปนี้ก็คือเศรษฐกิจในสหรัฐค่ะ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจจาก FED ของรัฐชิคาโก, รวมไปถึงดัชนี PMI ของภาคการผลิตขั้นต้น, ดัชนี PMI ในด้านยอดขายด้วยเช่นกัน
และอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole ของรัฐ Wyoming ที่ได้มีกำหนดการประชุมในวันที่ 26-28 สิงหาคม แต่ก็ต้องปรับเป็นการประชุมแบบออนไลน์แทน ซึ่งมีการประชุมในหัวของ “Monetary Policy Framework Review”
ถ้าหากว่าการประชุมมีความคืบหน้าอย่างไรหรือมีการสรุปวาระการประชุมอย่างไร คุณน้าพาเทรดจะนำมาให้ทุกคนได้อ่านกันอีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ