ใคร ๆ ก็พูดว่า ‘เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย’ แต่การขึ้นดอกเบี้ยนั้นหมายถึงอะไรกันแน่? แล้วดอกเบี้ยส่งผลกระทบอย่างไร? ถ้ามีการปรับขึ้นดอกเบี้ย จะส่งผลกับหุ้นกลุ่มไหนเป็นพิเศษ วันนี้คุณน้าจะพาทุกคนไปติดตาม “หุ้นในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น” ต้อนรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติในช่วงเดือนที่ผ่านมากันค่ะ
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร ?
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ธนาคารกลางใช้ดำเนินนโยบายทางการเงิน เพื่อปรับสมดุลเศรษฐกิจและค่าเงิน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สำคัญที่สุด เพราะส่งผลกับอัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ ในระบบเศรษฐกิจ ทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินค่ะ
ธนาคารกลาง “ปรับอัตราดอกเบี้ย” อย่างไร ?
อันดับแรก เราต้องทำความเข้าใจก่อนค่ะว่า ธนาคารกลาง หรือที่เราเรียกกันว่า “แบงก์ชาติ” มีการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างไร? ซึ่งหากจะให้คุณน้าอธิบายง่าย ๆ เลย คือ
การปรับลดดอกเบี้ย
มีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน เพราะดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้คนอยากนำเงินฝากออกมาใช้จ่ายมากขึ้น ผู้ประกอบการเองก็จะมีการกู้ยืมเงินไปทำธุรกิจมากขึ้นด้วย
การปรับขึ้นดอกเบี้ย
มีเพื่อชะลอเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ร้อนแรงเกินไป เพราะดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นก็จะทำให้คนอยากฝากเงิน หรือนำเงินกลับมาเก็บในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น พันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น ภาคธุรกิจก็จะเกิดการชะลอตัวลง
การปรับอัตราดอกเบี้ย ส่งผลอย่างไร ?
เมื่อแบงก์ชาติมีการปรับขึ้น หรือลดอัตราดอกเบี้ย แน่นอนว่าย่อมมีผลกระทบที่ตามมาอย่างต่อเนื่องค่ะ ซึ่งคุณน้าขอแบ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
1. สถาบันการเงิน
ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน ถือเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เมื่อแบงก์ชาติมีการปรับอัตราดอกเบี้ยค่ะ เพราะอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อ “ผลตอบแทน” จากการฝากเงินและการกู้ยืมเงิน
2. ผู้ประกอบกิจการ
การปรับอัตราดอกเบี้ย มีผลต่อ “การตัดสินใจเข้ามาลงทุน” ของผู้ประกอบการ เพราะหากการกู้ยืมมีดอกเบี้ยสูง ผู้ประกอบการก็อาจจะพิจารณาเลือกประเทศอื่น หรือชะลอการลงทุนได้ เป็นต้นค่ะ
3. นักลงทุน
หากผู้ประกอบการยกเลิก ชะลอตัว หรือทำผลตอบแทนได้ไม่ค่อยดี “หุ้นในตลาดหลักทรัพย์“ จะปรับตัวลง ดังนั้น นักลงทุนก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย ซึ่งไม่เพียงกระทบต่อตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงตลาดค่าเงิน รวมถึงตลาดอื่น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ
4. ประชาชน
แม้ดูเหมือนว่า ประชาชนจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประชาชนภายในประเทศถือเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักสุดเลยค่ะ เพราะ “ราคาสินค้าและบริการ” จะปรับสูงขึ้น หรือต่ำลง ล้วนขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้
อีกทั้ง ยังมีปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะอย่าลืมนะคะว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยจะปรับตามสภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น หากเศรษฐกิจไม่ดี อัตราการว่างงานก็จะสูงขึ้นนั่นเองค่ะ
5. ค่าเงิน
สุดท้ายเลย คือ สภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้น ๆ และการดำเนินนโยบายการเงินอย่างการปรับดอกเบี้ย จะส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินของประเทศนั้น ๆ ค่ะ ซึ่ง “การแข็งค่าและอ่อนค่า” ก็จะส่งผลต่อภาคส่วนอื่นต่อไปเช่นกัน
ทุกคนเห็นไหมคะว่า การปรับอัตราดอกเบี้ย แม้เป็นเพียงการขยับเพียงเล็กน้อย แต่ก็สามารถส่งผลกระทบได้เป็นวงกว้าง ไม่เพียงต่อภาคธุรกิจและการลงทุนเท่านั้น ดังนั้น ทุกคนจึงควรให้ความสนใจเรื่องรอบตัวเหล่านี้ด้วยเช่นกันค่ะ
“หุ้นที่น่าลงทุน” ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
การปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้จะสื่อถึงเศรษฐกิจในช่วงนั้น ๆ ที่อาจจะเป็นไปไม่ค่อยดีนัก หรือกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ จนทำให้แบงก์ชาติต้องออกมาขึ้นดอกเบี้ย เพื่อชะลอความร้อนแรง ส่งผลให้ตลาดการลงทุนทรุดตัว แต่อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบเชิงลบค่ะ เพราะหุ้นในบางอุตสาหกรรมก็ได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน
1. หุ้นธนาคารและประกันชีวิต
แน่นอนว่า หุ้นกลุ่มแรกที่ได้รับอิทธิพลจากการขึ้นดอกเบี้ยเลยก็คือ “หุ้นกลุ่มธนาคารและประกันชีวิต” เพราะรายได้ของธนาคารพาณิชย์มาจากดอกเบี้ยการปล่อยสินเชื่อ และการกู้ยืมเงิน ดังนั้น เมื่อแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย ธุรกิจนี้ก็จะทำกำไรได้สูงขึ้นนั่นเองค่ะ
ส่วนประกันชีวิต ก็เป็นอีกธุรกิจที่ทำกำไรได้ดีในช่วงนี้ เพราะรายได้ของพวกเขามาจากเบี้ยประกัน ซึ่งรายได้เหล่านี้จะถูกนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทต่อไป ดังนั้น หากดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น รายได้ของพวกเขาก็มากขึ้นตามไปด้วยค่ะ
2. หุ้นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
หุ้นกลุ่มต่อมาที่ได้รับผลกระทบในเชิงบวก เมื่อดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น คือ “หุ้นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต” เช่น อาหาร ยารักษาโรค สินค้าอุปโภคอย่างสบู่ แชมพู ยาสีฟัน และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า และน้ำประปา เป็นต้น
ทุกคนอาจสงสัยว่า หุ้นกลุ่มนี้ได้ประโยชน์อย่างไร? เพราะรายได้ของพวกเขาไม่ได้มาจากดอกเบี้ยเหมือนกับธนาคารและประกันชีวิต ซึ่งคุณน้าขอขยายความเพิ่มเติมหน่อยค่ะว่า หุ้นกลุ่มนี้เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และมนุษย์ทุกคนจะขาดสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้ ดังนั้น แม้ว่ารายได้ของพวกเขาจะไม่ได้มาจากดอกเบี้ย แต่ธุรกิจของพวกเขาก็สามารถอยู่รอดได้ในทุกช่วงเศรษฐกิจ รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน มันจึงเหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงนี้นั่นเองค่ะ
อีกทั้ง ความน่าสนใจของหุ้นกลุ่มนี้ ยังเป็นอำนาจในการต่อรองและกำหนดราคาสินค้า ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถผลักภาระต้นทุนบางส่วนไปยังผู้บริโภคได้ มันจึงเป็นการลดแรงกระแทกในยามที่ต้นทุนสูงขึ้นจากทั้งเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยค่ะ
หุ้นทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจนี้ ถือเป็นหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลบวกจากการขึ้นดอกเบี้ยโดยตรง แต่มันก็ไม่ได้แปลว่า หุ้นทุกตัวในกลุ่มจะได้รับประโยชน์เท่ากันหมดนะคะ เพราะจะต้องคำนึงถึงกำไรของบริษัท การบริหารงาน ตลอดจนปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้น นักลงทุนจึงต้องเข้าไปศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ในแต่ละบริษัทก่อนว่าเป็นอย่างไร
สรุป
ทุกคนน่าจะพอเห็นภาพกันแล้วนะคะว่า “การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย” ส่งผลต่อทิศทางการลงทุนอย่างไรบ้าง? ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงการฉายให้เห็นปัจจัยต่าง ๆ บนทฤษฎีทางการเงินเท่านั้น เพราะที่สุดแล้วในโลกของการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอน และยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น
ดังนั้น หัวใจสำคัญที่นักลงทุนควรให้ความสนใจจึงเป็นการติดตามข้อมูล และสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงเพราะให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ แต่ยังเป็นการปรับพอร์ตเพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของทุกคนด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Forexlearning, SET Invest Now
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge