คงต้องบอกเลยว่าประเทศจีนถือเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว และเป็นประเทศที่ทั่วโลกจับตามองไม่ว่าจะทำอะไร โดยเฉพาะในกลุ่มของนักลงทุน เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะ ถึงแม้ว่าในช่วงต้นปีรวมไปถึง 2 ปีที่ผ่านมาประเทศจีนอาจจะประสบปัญหาจนส่งผลต่อเศรษฐกิจไปบ้าง ดังนั้นคุณน้าจึงอยากพาทุกคนมาดูทิศทางเศรษฐกิจของจีนตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2022 ถึงปี 2023 เพื่อที่นักลงทุนจะตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้นค่ะ
ส่องเศรษฐกิจจีนในช่วงปี 2022
ในช่วงที่ผ่านมาจีนต้องเผชิญกับสัญญาณที่ไม่ค่อยดีต่อเศรษฐกิจเท่าไหร่ค่ะ อย่างเช่น การหดตัวของอุปสงค์ หรือจะเป็นภาวะอุปทานตึงตัว เป็นต้น โดยเฉพาะในภาวะการแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้ประเทศจีนได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างหนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบไปทั้งประเทศ แต่จีนสามารถรับมือได้และมีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีมาก ๆ
1. เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ Zero-Covid
มาตรการ Zero-Covid คือ จะมีการปิดเมืองเพื่อให้ประชากรกักตัวอยู่ในบ้านระหว่างทำการตรวจหาเชื้อค่ะ โดยระยะเวลาก็จะขึ้นอยู่กับประชากรในแต่ละเมือง แต่ในระยะเวลาที่กักตัวก็จะให้แต่ละครัวเรือนสามารถออกมาซื้อของกินของใช้ได้ตามจำนวนที่กำหนด และในปัจจุบันเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนอย่างเฉิงตูกำลังอยู่ในช่วงปิดเมือง (Lockdown) ค่ะ โดยประชากรกว่า 21.2 ล้านคนจะต้องทำการทดสอบโควิด 19 เป็นระยะเวลา 4 วัน เนื่องด้วยจากว่าเฉิงตูเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และทางจีนก็ได้รับคำแนะนำเรื่องที่ว่ามาตรการ Zero-Covid นั้นสามารถส่งผลด้านลบได้มากกว่าด้านบวก แต่ทางจีนยังคงยืนยันที่จะใช้มาตรการนี้เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดโควิดกลับมาเพื่อจะได้รีบรักษาและจำกัดวงในการระบาด เรียกได้ว่าตัดไฟแต่ต้นลม ซึ่งเป็นการเรียนรู้จากการแพร่ระบาดที่ผ่านมา เพราะในช่วงแรกนั้นจีนได้รับผลกระทบไปอย่างเต็มเปาค่ะ
2. จีนเป็นประเทศที่ไม่มีปัญหาเงินเฟ้อ
ถึงแม้ว่าคุณน้าจะเขียนถึงปัญหาเงินเฟ้อจากหลากหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศของไทยเราด้วย แต่ว่าในประเทศจีนนั้นปัญหาเงินเฟ้อที่ต่ำมากจนไม่เป็นปัญหาเลยค่ะ ต่างจากประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาที่เงินเฟ้อยังส่งผลไปยังหลายตลาดเลย เงินหยวนแข็งค่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญแก่สกุลเงินเป็นอย่างมาก เพราะถึงแม้จะมีการแข่งขันในหลายด้าน แต่การแข่งขันเหล่านั้นก็ช่วยดันให้ค่าเงินมีความแข็งค่าอยู่ตลอดเวลา เราจะสังเกตได้เลยว่าไม่ค่อยเห็นข่าวเงินหยวนอ่อนค่าเลยค่ะ
ปี 2023 เป็นปีที่จีนผลักดันเศรษฐกิจในทุกด้าน
ประเทศจีนมีการผลักดันในด้านเศรษฐกิจอย่างยาวนานและต่อเนื่อง และเนื่องจากเพิ่งจะได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ไปจนทำให้ได้รับบทเรียนหลายอย่าง เศรษฐกิจบางพื้นที่ถึงกลับต้องหุดชะงัก ดังนั้นเหมือนปลายปี 2022 จนถึงปี 2023 ประเทศจีนเริ่มกันมาสนใจเศรษฐกิจภายในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการผลักดันเศรษฐกิจจากปัจจัยด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. การลงทุน
การลงทุนได้มีการปรับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนของภาครัฐ ที่หันมาสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศมากขึ้น และผลักดันการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้ตัวเลขการลงทุนเพิ่มขึ้นจากปี 2021
2. รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายตัวเลขเศรษฐกิจ
การที่รัฐบาลจีนได้มีการตั้งเป้าหมายตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเน้นไปที่การบริโภคมากขึ้น ควบคู่ไปกับการผลิตของภาคเอกชน
3. การลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ลดลง
การลงทุนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้เศรษฐกิจของจีนชะลอตัว เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญต่อ GDP ของจีน ทำให้รัฐบาลของจีนจังได้เข้าไปกำกับดูแลผู้ปล่อยอสังหาริมทรัพย์ไม่ให้มีการเก็งกำไรเหมือนอดีตจากการขยายตัว
4. ประเทศจีนไม่เคยเจอปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูง
การที่ประเทศจีนไม่เคยเจอปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูงเหมือนประเทศมหาอำนาจอื่น ๆ ทำให้รัฐบาลมีการกำหนดนโยบายที่กระตุ้นเงินเฟ้อสูงขึ้นหรือให้คนภายในประเทศออกมาใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น
มุมมองเศรษฐกิจจีนจากผู้เชี่ยวชาญ
มาดูมุมมองเศรษฐกิจจากผู้เชี่ยวชาญจีน 3 ท่านกันดีกว่าค่ะ โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัยเหรินหมิน (Renmin University of China), นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทประเทศจีนแคปปิตอลคอร์ปอเรชั่นจำกัด (China International Capital Corporation: CICC) และนักเศรษฐศาสตร์ของ JD.com (Jingdong Mall) ซึ่งมีความคิดเห็นดังนี้
1. แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนจะยังคงมีเสถียรภาพ
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจีนกำลังเผชิญกับสัญญาณเชิงลบต่าง ๆ แต่แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคของจีนปีนี้ยังมีเสถียรภาพในทิศทางที่ดีเลยค่ะ เพราะว่าอัตราการว่างงานก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง แถมยังมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงมีการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศเพื่อไม่เป็นรองใคร ในปี 2022 นี้ จีนมีการส่งออกที่สูงขึ้น มีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น และมีการลงทุนสีเขียว (การลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม) ที่มากขึ้นอีกด้วย
2. จีนมีนโยบายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ดี
จีนเน้นไปที่การปฏิรูป และการปรับเปลี่ยนนโยบายในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ อย่างการปรับเปลี่ยนนโยบายทางด้านการเงินเพื่อให้มีการปรับลดดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสม หรือจะเป็นการเพิ่มวงเงินการลงทุนมากขึ้น เพราะรัฐบาลท้องถิ่นคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของการลงทุนจะสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ทางจีนจึงมีการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสูง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและเพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศยังคงลงทุนในจีนรวมไปถึงดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
3. จีนสนับสนุนและสร้างโอกาสในการลงทุนมากขึ้น
จีนมีการผลักดันโอกาสในด้านของ นวัตกรรมและเทคโนโลยี, การพัฒนารูปแบบที่จะช่วยปรับปรุงห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศ, แผนการพัฒนารูปแบบใหม่เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ กว่า 102 แห่งทั่วประเทศจีน, แผนเพิ่มรายได้ให้ประชากร และเพิ่มการให้บริการสาธารณะมากขึ้น นอกจากจะช่วยพัฒนาในเรื่องของประเทศแล้ว ยังทำให้เศรษฐกิจในประเทศจีนเติบโตและพัฒนาได้ด้วยเช่นกันค่ะ
4. เพิ่มความมั่นคงของตลาดอสังหาริมทรัพย์
ถึงแม้ว่าจะมีอสังหาริมทรัพย์ในจีนหลายโครงการที่ถูกทำลายเนื่องจากไม่มีผู้ซื้อ แต่ในขณะนี้อุปสงค์ของที่อยู่อาศัยในประเทศจีนยังคงอยู่ในทิศทางที่ดีค่ะ เพราะประชาชนมีความต้องการที่จะปรับปรุงต่อเติมที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วย แล้วก็มีการสนับสนุนด้านการเงินจากทางรัฐบาลแก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นด้วย เลยทำให้แนวโน้มที่จะพัฒนามีสูงขึ้นไปด้วยค่ะ
สรุป
จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญรวมถึงนโยบายที่รัฐบาลของจีนได้ออกมาผลักดัน ทำให้เราได้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนจะไปในทิศทางไหน ถ้าหากเราสนใจจะลงทุนหุ้นจีน หรือ สินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน อย่างไรก็ตามก่อนการลงทุนนอกจากเราต้องดูแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศนั้น ๆ แล้วอย่าลืมศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรพย์ที่เราลงทุน อีกทั้งการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ เราจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงพาณิชย์, The Standard
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge