ทำเอาคนถือเหรียญหลายคนใจหายวาบกันไปบ้างแน่นอนค่ะ
เพราะเมื่อคืนหลังการรายงานผลประชุม FED ก็ทำราคาน้อง Bitcoin ดิ่งลงแตะระดับ 43,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว
ประเด็นสำคัญ
- เจ้าหน้าที่ของ Fed บรรลุฉันทามติในการประชุมเดือนมีนาคมว่าพวกเขาจะเริ่มลดงบดุลของธนาคารกลางลงเหลือ 95 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนซึ่งน่าจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม
- นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับเป็น 0.5 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐหารือถึงวิธีที่พวกเขาต้องการลดการถือครองพันธบัตรจำนวนหลายล้านล้านในการประชุมเดือนมี.ค. ที่ผ่านมาค่ะ โดยมีฉันทามติประมาณ 95 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนจากเดือนละ 9 ล้านล้านต่อเดือน
เจ้าหน้าที่นั้นอนุมัติว่าจะอนุญาตให้ม้วนออกได้สูงสุด 60 พันล้านดอลลาร์ใน Treasurys และ 35 พันล้านดอลลาร์ในหลักทรัพย์ค้ำประกันจะได้รับอนุญาตให้ม้วนออกโดยจะค่อย ๆ ผ่านไปนานกว่าสามเดือนและน่าจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม ซึ่งยอดรวมดังกล่าวจะมากกว่าสองเท่าของความพยายามที่ผ่านมาในช่วงปี 2018 – 2020
นอกเหนือจากการพูดคุยในงบดุลแล้ว เจ้าหน้าที่ยังได้หารือถึงอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตด้วยค่ะ โดยสมาชิกต่างมุ่งไปที่การเคลื่อนไหวเชิงรุกมากขึ้น
ในการประชุมวันที่ 15-16 มีนาคม เฟดได้อนุมัติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่าสามปี การเพิ่มขึ้นตามจุดพื้นฐาน 25 จุด ซึ่งเป็นจุดเปอร์เซ็นต์หนึ่งในสี่ ได้ยกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นจากระดับใกล้ศูนย์ ซึ่งเป็นระดับที่เคยเป็นมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020
หุ้นร่วงลงหลังเฟดปล่อยตัว ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้น นอกจากนี้ Bitcoin ยังร่วงมาทดสอบที่ 43,000 ดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย ก่อนจะปรับตัวขึ้นในที่สุดค่ะ