ใกล้ช่วงคริสต์มาสเข้ามาแล้ว นักลงทุนหลาย ๆ คนคงอยากได้ของขวัญจากซานต้าครอสเป็นหุ้นดี ๆ สักตัวกันใช่ไหมคะ ดังนั้น ในบทความนี้ คุณน้าจะขอแนะนำ 10 หุ้นน่าลงทุนต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส ไปกับตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะเริ่มต้นปี 2025 กันค่ะ จะมีหุ้นเด่นตัวไหนที่น่าเก็บเข้าพอร์ตบ้างนะ? ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ!
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ต้อนรับคริสต์มาสกับปรากฏการณ์ Santa Claus Rally?
ที่มารูปภาพ : Carson
“การบันทึกปรากฏการณ์ Santa Clause Rally ของดัชนี S&P 500 ระหว่างปี 1950-2022”
หากกล่าวถึงตลาดหุ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นักลงทุนหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินปรากฏการณ์ Santa Claus Rally ซึ่งก็คือ ปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีการปรับตัวขึ้นในช่วง 7 วันทำการระหว่างช่วงคริสต์มาสไปจนถึงไม่กี่วันหลังปีใหม่ค่ะ (หรือต้นเดือนมกราคมในปีถัดไป)
จากสถิติผลตอบแทนดัชนี S&P 500 ย้อนหลังระหว่างปี 1995 ไปจนถึงปี 2022 พบว่า ปรากฏการณ์ Santa Claus Rally เกิดขึ้นไปทั้งหมด 72 ครั้ง โดยดัชนี S&P 500 ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.43% ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกนอกเหนือจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีการปรับตัวขึ้นตามไปด้วย เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดใหญ่ที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลก
ดังนั้น นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่า ปรากฏการณ์ Santa Claus Rally จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ โดยเฉพาะกับนักลงทุนที่ชื่นชอบการเก็งกำไร
ทำไมตลาดหุ้นทั่วโลกมักปรับตัวในช่วงเทศกาล?
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงต้นเดือนมกราคม ซึ่งบทความนี้ คุณน้าขอแนะนำ 5 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบสำคัญต่อตลาดหุ้น โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) เป็นผลมาจากแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อที่มีการปรับลดลงเล็กน้อยในปีนี้ อีกทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยในภาคครัวเรือนที่มีมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวเชิงบวกค่ะ
2. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ในช่วงกลางปีไปจนถึงสิ้นปี 2024 นี้ หลายประเทศมีการปรับนโยบายทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจในหลาย ๆ ประเทศมีการฟื้นตัวขึ้นกว่าดีกว่าช่วงโควิด-19 ยกตัวอย่างเช่น ภาคเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีการปรับตัวดีขึ้นจากอุปสงค์ภายในประเทศ หรือภาคเศรษฐกิจของจีนที่มีการปรับตัวดีขึ้นเช่นกันในภาคการผลิตและการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ภาคเศรษฐกิจในประเทศเอเชีย อย่างอินเดียและเวียดนามก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องค่ะ เนื่องจากเป็นประเทศที่รองรับฐานการผลิตให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย รวมทั้ง ยังมีแรงงานจำนวนมาก ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด สำหรับประเทศไทยก็มีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากภาคการท่องเที่ยวในปี 2024 นี้ค่ะ
3. การอุปโภคบริโภคในช่วงหยุดยาว
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวในช่วงเทศกาล ก็คือ การอุปโภคและบริโภคค่ะ เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนที่มีอาชีพเป็นพนักงาน ซึ่งพวกเขามักจะได้รับโบนัสในช่วงสิ้นปีนั่นเอง
4. Sentiment ของนักลงทุน
การเกิด Sentiment ที่ดีของนักลงทุนในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นบวก เนื่องจากนักลงทุนเล็งเห็นว่า ผลประกอบการของบริษัทมีการปรับตัวดีขึ้นเกินกว่าคาด อ้างอิงจากการคาดการณ์ของ Goldman Saches Securities เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2024 ซึ่งมีการประเมินผลตอบแทนของดัชนี MSCI All Country World Index ซึ่งมีการเติบโตของกำไรอยู่ที่ 10.5% YoY และ 13.1% YoY ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผลประกอบการของบริษัทในปี 2024 และปี 2025 ยังคงมีผลกำไรอย่างต่อเนื่องค่ะ ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่า ตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นนั่นเอง
3. การวางแผนภาษีในช่วงปลายปี
และปัจจัยสุดท้ายที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้น ก็คือ การวางแผนภาษีในช่วงปลายปีค่ะ เพราะการวางแผนภาษีผ่านการลงทุนในสินทรัพย์หรือกองทุน RMF และ SSF ต่าง ๆ เพื่อช่วยลดหย่อนภาษี ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ตลาดหุ้นเป็นจำนวนมากในช่วงเวลานี้ ประกอบกับในช่วงปลายปี นักลงทุนสหรัฐฯ หลายคน จะมีการปรับพอร์ตการลงทุนด้วยการขายหุ้นที่ขาดทุนออก เพื่อช่วยลดหย่อนภาษีการลงทุนให้น้อยลง ซึ่งวิธีการนี้จะถูกเรียกว่า Tax Loss Harvesting
ต้อนรับคริสต์มาส มีตลาดหุ้นน่าลงทุนตลาดไหนบ้าง?
ในบทความนี้ คุณน้าขอแนะนำ 2 ตลาดหุ้น ทั้งตลาดหุ้นในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างทันท่วงที จะมีหุ้น Sector ไหนที่น่าสนใจบ้าง ไปหาคำตอบกันค่ะ
ตลาดหุ้นไทย
สำหรับหุ้นไทยที่จะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลคริสต์มาส คุณน้ามองว่าหุ้นใน Sector อุปโภคบริโภคและค้าปลีกค่อนข้างน่าสนใจค่ะ เนื่องจากความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลและวันหยุดจะช่วยหนุนให้หุ้น Sector นี้ มีแนวโน้มที่คาดการณ์ว่า จะมีผลกำไรปรับตัวขึ้นในช่วงสิ้นปี โดยคุณน้าขอแนะนำ 5 หุ้นค้าปลีกไทย สร้าง Performance ดีบนตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1. หุ้น CRC
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น CRC
ราคาต่อหุ้นล่าสุด : 34.25 บาท
รายได้รวม : 193,537.80 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 5,959.85 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ (%) : 3.28%
กำไรต่อหุ้น : 0.99 บาท
มาเริ่มกันที่หุ้น CRC หรือหุ้นของบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีแนวโน้มว่าในไตรมาสที่ 4/2024 จะทำกำไรได้ดีที่สุดแห่งปี ซึ่งคาดว่าผลกำไรจะบวกเพิ่มขึ้นประมาณ 8.0% หรืออยู่ที่ราว ๆ 8,626 ล้านบาท เนื่องจากมี 2 ปัจจัยหนุนสำคัญ ดังนี้
- ช่วงเทศกาลและวันหยุด : เป็นช่วง High Season ของธุรกิจ
- การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ : ส่งผลให้คนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้สินค้าฟุ่มเฟือยค่อนข้างได้รับความนิยม
2. หุ้น CPALL
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น CPALL
ราคาต่อหุ้นล่าสุด : 63.50 บาท
รายได้รวม : 730,233.30 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 18,166.74 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ (%) : 2.84%
กำไรต่อหุ้น : 1.98 บาท
สำหรับหุ้นค้าปลีก CPALL ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ยังคงสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่องในปี 2024 นี้ค่ะ ซึ่งถือเป็นหุ้นที่ Outperform และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจค่ะ โดยคาดการณ์ว่า ในไตรมาส 4/2024 จะทำกำไรได้ 24,498 ล้านบาท ซึ่งบวกเพิ่มถึง 32.55% โดยมี 3 ปัจจัยหนุนสำคัญ ดังนี้
- ยอดขายเติบโต : ยอดขายของสาขาเดิมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการจำหน่ายตั๋ว Counter Service สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และปั๊มน้ำมัน
- อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น : ได้รับอานิสงส์จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลและวันหยุด ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
- การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล : จะช่วยหนุนให้การใช้จ่ายในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้หุ้น CPALL สามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
3. หุ้น HMPRO
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น HMPRO
ราคาต่อหุ้นล่าสุด : 9.75 บาท
รายได้รวม : 54,330.22 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 4,776.53 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ (%) : 8.79%
กำไรต่อหุ้น : 0.36 บาท
หุ้น HMPRO บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในหุ้นที่นักวิเคราะห์หลายคนแนะนำให้เข้าซื้อค่ะ เนื่องจากในช่วงเทศกาล ยอดขาย SSSG (การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม) จะมีการฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้หุ้น HMPRO ค่อนข้างน่าสนใจในช่วงนี้ โดยมี 3 ปัจจัยหนุนที่สำคัญ ดังนี้
- การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ : ภาคการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญให้หุ้น HMPRO มีโอกาสกลับมาฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4/2024 นี้
- กองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี : คาดว่าได้รับอานิสงส์จากการเข้าซื้อของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี
- สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ : คนจะเข้าซื้อเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านมากขึ้น ซึ่งคาดว่า จะส่งผลให้หุ้น HMPRO ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์นี้อีกด้วยค่ะ
4. หุ้น CPAXT
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น CPAXT
ราคาต่อหุ้นล่าสุด : 35.25 บาท
รายได้รวม : 378,416.66 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 6,609.31 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ (%) : 1.74%กำไรต่อหุ้น : 0.62 บาท
หุ้น CPAXT ของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นค้าปลีกที่ทำผลงานได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ โดยคาดว่า แนวโน้มไตรมาส 4/2024 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของหุ้น CPAXT ค่ะ ซึ่งมี 2 ปัจจัยหนุนที่สำคัญ ดังนี้
- เทศกาลและวันหยุด : เป็นช่วง High Season ของธุรกิจ
- การควบรวมกิจการ : เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ซีพี แอ็กตร้า จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Lotus’s) เข้าด้วยกัน ทำให้คาดว่าในไตรมาสที่ 4/2024 หุ้น CPAXT จะทำผลงานที่โดดเด่นเป็นอย่างมากค่ะ
5. หุ้น BJC
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น BJC
ราคาต่อหุ้นล่าสุด : 24.20 บาท
รายได้รวม : 126,712.23 ล้านบาท
กำไรสุทธิ : 2,356.90 ล้านบาท
อัตรากำไรสุทธิ (%) : 2.42%กำไรต่อหุ้น : 0.59 บาท
สำหรับหุ้นค้าปลีกไทยที่มีผลงานโดดเด่นอันดับสุดท้ายที่คุณน้าเลือกมา ก็คือ หุ้น BJC ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือที่เรารู้จักกันอย่าง Big C นั่นเองค่ะ ซึ่งคาดว่าไตรมาสท้ายปี 2024 บริษัทจะทำผลประกอบการดีที่สุดของปี แม้ว่าในไตรมาสที่ 3/2024 ผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากมีการปรับปรุงของสดอย่างต่อเนื่อง แต่นักวิเคราะห์หลาย ๆ รายให้ความเห็นตรงกันว่า ในช่วงสิ้นปีหุ้น BJC ควรถือไว้ เพราะมี 2 ปัจจัยหนุนที่สำคัญ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ : ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยหนุนให้หุ้น BJC มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
- เทศกาลและวันหยุด : เป็นช่วง High Season ของธุรกิจ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
แม้ว่า Valuation ของราคาหุ้นสหรัฐฯ จะสูงมากจากการทำ New High ในดัชนี S&P 500 ไปหลายต่อหลายครั้ง แต่นักวิเคราะห์ยังให้ความคิดเห็นตรงกันว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นค่ะ เนื่องจาก Sentiment ของนักลงทุนเป็นบวก โดยมีผลมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่ง และส่งผลให้กำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญในช่วงปลายปี 2024 ยังอาจจะเกิดปรากฏการณ์ Santa Claus Rally ที่จะช่วยหนุนหุ้นค้าปลีก, หุ้นซอฟต์แวร์ ตลอดจนหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งคุณน้าขอแนะนำ 5 หุ้นเด่นของสหรัฐฯ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. หุ้น Netflix
ข้อมูลทั่วไปของ NFLX80X
ราคาหุ้นล่าสุด : 3.12 บาท
ผู้ออก DRX : KTB
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 72.66 ล้านบาท
Trading Session : 20.00 น. – 04.00 น. (เฉพาะการซื้อขาย Auto Matching เท่านั้น)
หุ้น Netflix ยังคงเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องค่ะ ประกอบกับในช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่จะถึงนี้ คนจะใช้เวลาวันหยุดกับครอบครัวมากยิ่งขึ้น ทำให้คาดว่า ผลประกอบการของหุ้น Netflix จะยังคงทำผลงานที่โดดเด่นค่ะ
นักลงทุนสามารถเข้าซื้อหุ้น Netflix ได้ผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ หรือสามารถซื้อผ่าน App Streaming ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้ออกตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ DRX เป็นบลจ. กรุงไทย และมีสัญลักษณ์ซื้อขาย คือ NFLX80X
2. หุ้น Walmart
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น Walmart
ราคาหุ้นล่าสุด : 95.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ
มูลค่าตามราคาตลาด : 766 พันล้านบาท
ผลตอบแทน 1 ปี : 78.85%
มาต่อกันที่หุ้น Walmart บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยบวกจากการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาล ประกอบกับปัจจัยหนุนที่สำคัญจากธุรกิจ E-Commerce ช่วยหนุนให้อัตราส่วนกำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มมากขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะปรับตัวขึ้นเป็น 8.5-9.25% จากเดิมอยู่ที่ 6.5-8.0% ซึ่งคำแนะนำจากนักลงทุนที่มีต่อหุ้น Walmart คือ ควรเข้าซื้อทันทีค่ะ
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้น Walmart สามารถซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ หรือผ่านกองทุนรวมก็ที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่มค้าปลีกหรือหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง เป็นต้น
3. หุ้น Costco
ข้อมูลทั่วไปของหุ้น Costco
ราคาหุ้นล่าสุด : 989.23 ดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าตามราคาตลาด : 435.2 พันล้านบาท
ผลตอบแทน 1 ปี : 63%
หุ้นค้าปลีกที่มีความโดดเด่นอีกตัวที่คุณน้าขอแนะนำ ก็คือ หุ้น Costco บริษัทค้าส่งประเภท Wholesale ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งหุ้น Costco สามารถสร้างผลตอบแทน Outperform ในดัชนี S&P 500 ทั้ง YTD และผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 5 ปี ทำให้หุ้น Costco ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจลงทุนในช่วงเทศกาลค่ะ
นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น Costco ได้ผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ หรือผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่มค้าปลีกหรือหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง เป็นต้น
4. หุ้น TESLA
ข้อมูลทั่วไปของ TSLA80X
ราคาหุ้นล่าสุด : 2.42 บาท
ผู้ออก DRX : KTB
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 767.50 ล้านบาท
Trading Session : 20.00 น. – 04.00 น. (เฉพาะการซื้อขาย Auto Matching เท่านั้น)
หุ้น TESLA ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมักจะปรับตัวขึ้นสูง เนื่องจากมีปัจจัยหนุนโดยรวมมาจาก Santa Claus Rally ทำให้ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มปรับตัวพุ่งสูงขึ้น จนทำให้ Sentiment ของนักลงทุนมีแนวโน้มเป็นบวกนั่นเองค่ะ
นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น Tesla ผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ เช่น โบรกเกอร์ CFDS หรือซื้อผ่าน App Streaming ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้ออกตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ DRX เป็นบลจ. กรุงไทย มีสัญลักษณ์ซื้อขาย คือ TSLA80X
5. หุ้น Microsoft
ข้อมูลทั่วไปของ MSFT80X
ราคาหุ้นล่าสุด : 7.39 บาท
ผู้ออก DRX : KTB
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 230.64 ล้านบาท
เงินปันผลล่าสุด : 0.01 (บาท/หน่วย)
Trading Session : 20.00 น. – 04.00 น. (เฉพาะการซื้อขาย Auto Matching เท่านั้น)
หุ้น Microsoft เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสิ้นปีนี้จะเป็นช่วงที่ผลประกอบการของ Microsoft แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยเป็นผลมาจากการขายผลิตภัณฑ์ในช่วงเทศกาลและหยุดยาว ซึ่งในไตรมาสที่ 4/2024 คาดการณ์ว่า ราคาหุ้นของ Microsoft อาจพุ่งทะยานแตะถึง 454.98 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ไปพร้อม ๆ กับศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจต่อไป
นักลงทุนสามารถซื้อหุ้น Microsoft ผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ เช่น โบรกเกอร์ CFDS หรือซื้อผ่าน App Streaming ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้ออกตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ DRX เป็นบลจ. กรุงไทย มีสัญลักษณ์ซื้อขาย คือ MSFT80X
คุณน้าแนะนำเทรดหุ้น CFD ไปกับโบรกเกอร์ IUX
IUX มีการให้บริการซื้อขายหุ้น CFD ประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven (M7) อีกทั้งยังมีหุ้นให้เลือกมากมายกว่า 120 รายการ ไม่ว่าจะเป็น Coca Cola, Adobe, Alibaba, McDonalds Incorporated และ Netflix เป็นต้น ซึ่งทำให้เทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์รายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นทั่วโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ช่วงเทศกาลมีหุ้นอะไรน่าสนใจบ้าง?
- หุ้น Netflix
- หุ้น Walmart
- หุ้น Costco
- หุ้น TESLA
- หุ้น Microsoft
ตลาดหุ้นไทย ช่วงเทศกาลมีหุ้นอะไรน่าสนใจบ้าง?
- หุ้น CRC
- หุ้น CPALL
- หุ้น HMPRO
- หุ้น CPAXT
- หุ้น BJC
ลงทุนหุ้น ช่วงเทศกาลดีไหม?
การลงทุนหุ้นในช่วงเทศกาลถือเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน หากนักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างรอบคอบ เพราะในช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ตลาดกลับมาคึกคัก แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็น Sideway ได้
สรุปหุ้นน่าลงทุนต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า การลงทุนในช่วงเทศกาลก็ถือเป็นหนึ่งในการจับจังหวะการลงทุนที่ดีเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่แนวโน้มตลาดค่อนข้างสดใสต้อนรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสเป็นอย่างมาก ส่วนตลาดหุ้นไทยก็มีการปรับตัวอย่างคึกคักไม่แพ้กันค่ะ สำหรับหุ้น Sector ค้าปลีกที่ได้รับอานิสงส์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั่นเอง
อย่างไรก็ดี การลงทุนหุ้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนควรศึกษาหุ้นเฉพาะตัวให้ละเอียดและรอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
