สวัสดีค่ะทุกคนกลับมาพบกันอีกแล้วนะคะสำหรับบทความให้ความรู้กับคุณน้าพาเทรด ซึ่งในวันนี้คุณน้าพาเทรดจะพาทุกคนมาเจาะ “ตลาดหุ้นเวียดนาม” กันค่ะว่ามีความน่าสนใจอย่างไร เราไปดูกันเลย!
ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้ แม้แต่ตลาดหุ้นจีนก็เกิดการซบเซาและยังไม่มีวี่แววที่จะดีขึ้น ดังนั้น “ตลาดหุ้นเวียดนาม” จึงเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจและศึกษาไว้ค่ะ เนื่องจากตลาดหุ้นเวียดนาม (VN Index) พุ่งขึ้นมาถึง 100% 16% 10% ก็ตาม
มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านออกมาเปิดเผยว่าเศรษฐกิจเวียดนามฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง นำโดยภาคการส่งออกที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเร่งตัวขึ้นของอุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกหลักของเวียดนาม นอกจากนั้นการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมาได้รับผลกระทบค่อนข้างจำกัดจากการกลับมาระบาดของ COVID-19 เนื่องจาก มีมาตรการควบคุมที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นโยบายการเงินและการคลังยังมีแนวโน้มอยู่ในภาวะผ่อนคลายเพื่อช่วยประคับประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะเติบโตได้ในระดับ 6.5% – 7.0% อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มขยับขึ้นน่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เสถียรภาพด้านต่างประเทศของเวียดนามอยู่ในภาวะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตเนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดในระยะหลังอยู่ในภาวะเกินดุล การกลับมาของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณน้าเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงเริ่มสนใจในตลาดหุ้นเวียดนามแล้วใช่มั้ยคะ ฉะนั้นคุณน้าพาเทรดเลยจะมาตอกย้ำกันอีกทีนึงค่ะว่าทำไมเราถึงควรลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
กำไรบริษัทจดทะเบียนใน “ตลาดหุ้นเวียดนาม” เติบโตอย่างเด่นชัด
นักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทในตลาดหุ้นเวียดนามจะมีกำไรเติบโต้ร้อยละ 23 ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่กำไรลดลงร้อยละ 17 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ราคาหุ้นในตลาดหุ้นเวียดนามยังถูกกว่าตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาค
วัดกันที่ค่า Price to Earnings Ratio (ค่า P/E) ของดัชนี VNI ปี 2564 คาดว่า จะอยู่ที่ 18 เท่า เพิ่มขึ้นจากในอดีต แต่นับว่ายังน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เทียบกับปี 2563 ค่า P/E อยู่ที่ 16.03 เท่า
ค่า P/E เฉลี่ยช่วงปี 2561-2563 ของดัชนี VNI อยู่ที่ 16.4 เท่า
ค่า P/E จะเป็นตัวสะท้อนระยะเวลาคืนทุน เมื่อนักลงทุนต้องใส่เงินลงทุนไปในหุ้นตัวนั้นในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับ ค่า P/E ประเทศอื่นๆ ที่อยู่ราวๆ 20-30 เท่า ลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม ใช้เวลาคืนทุนน้อยกว่า
มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นและผลประกอบการดี
นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี VNI จะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 12.3 ในปี 2564 กลุ่มนักลงทุนที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดหุ้นเวียดนาม คือ นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนหน้าใหม่ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
จะเห็นได้ว่าเวียดนามจัดเป็นหนึ่งในประเทศที่ร้อนแรงสุดในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีความน่าสนใจในการเข้าไปลงทุนอย่างมาก ดังนั้นถ้าไม่อยากตกรถอย่าลืมเข้ามาศึกษาตลาดกันไว้นะคะ รู้มากกว่าก็มีโอกาสมากกว่านะคะทุกๆคน
สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์อื่น ๆ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge
ขอบคุณข้อมูลจาก : Traderbobo