กองทุนทองคำ ควรซื้อเก็บไหม? หลังทองคำรีเทิร์นพุ่ง มือใหม่เริ่มต้นยังไงดี!

กองทุนทองคำ ควรซื้อเก็บไหม หลังราคาทองคำรีเทิร์นพุ่ง มือใหม่เริ่มต้นยังไงดี!
Table of Contents

เรียกได้ว่าในปีมังกรทองนี้ ราคาทองคำเปิดตัวมาได้อย่างสวยงามเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวรีเทิร์นพุ่งสูงมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed หรือแม้แต่เงินบาทอ่อนค่า เป็นต้น จะเห็นได้ว่า ทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มาแรงเป็นอย่างมากในขณะนี้ 

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังคงสับสนว่า ควรเลือกลงทุนทองคำในรูปแบบไหนดี? เนื่องจากปัจจุบันการลงทุนทองคำมีหลากหลายรูปแบบ ดังนั้น ในบทความนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปศึกษาการลงทุนทองคำรูปแบบหนึ่งที่นักลงทุนมือใหม่ สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังใช้ต้นทุนในการลงทุนต่ำอีกด้วย ซึ่งการลงทุนที่คุณน้าจะนำเสนอนั่นก็คือ กองทุนทองคำค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย!


บทความที่เกี่ยวข้องกับทองคำเพิ่มเติม :


3 เหตุผลว่าทำไมทองคำถึงมาแรงในปี 2567

สืบเนื่องจากช่วงเดือนตุลาคม ในปี 2566 มีเหตุการณ์ที่สร้างความตึงเครียดให้กับโลกของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ลากยาวมาถึงสงครามตะวันออกกลางที่ยังคงปะทุอยู่ในขนาดนี้ อย่างสงครามอิสราเอลและฮามาส ส่งผลให้ราคาทองคำกลับมารีเทิร์นพุ่งขึ้นสูง ซึ่งคุณน้าขอยกตัวอย่าง 3 เหตุผลว่า ทำไมทองคำถึงมาแรงในปี 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง (Fed)

ปัจจัยแรกที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นั่นก็คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง (Fed) ค่ะ เนื่องจากการปรับลดของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาพันธบัตรมีความผันผวนที่มากขึ้น อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนได้ไม่ดีเท่าที่ควร เป็นเหตุให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีความปลอดภัยมากกว่า ซึ่งทองคำก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ

2. ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2567

มาต่อกันที่ปัจจัยที่ 2 คือ ภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากหลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในรอบ 10 ปี สืบเนื่องจากปัญหาโควิด-19 ที่ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจตกต่ำลง ประกอบกับสงครามกลางเมืองที่กำลังยืดเยื้ออยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐและส่งผลให้แรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วยค่ะ ซึ่งถือว่ากระทบต้นทุนและภาระหนี้ของภาครัฐและเอกชนเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงมีความเสี่ยงที่จะซบเซาลง 

ด้วยเหตุนี้เอง ราคาทองคำจึงปรับตัวสูงขึ้น เพราะภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลที่มากขึ้น พวกเขาจึงหันไปให้ความสนใจทองคำมากขึ้น เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในยามวิกฤติหรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า Safe-Haven

3. อุปสงค์จากนักลงทุนรายใหญ่ที่มีต่อราคาทองคำ

นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ธนาคารกลางในหลาย ๆ ประเทศเริ่มหันมาเก็บทองคำสำรองมากขึ้น ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารทั่วโลกถือครองทองคำรวมแล้วกว่า 35,827.5 ตัน และในปีนี้คาดว่านักลงทุนรายใหญ่ยังคงเดินหน้าทยอยกักตุนทองคำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นแรงหนุนชั้นดีที่ทำให้ราคาทองคำปรับ All Time High แทบทุก ๆ วันค่ะ


นักลงทุนควรซื้อทองคำแท่งหรือกองทุนทองคำ แบบไหนดีกว่ากัน?

จะเห็นว่า ปีมังกรนี้ทองคำถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มาแรงเป็นอย่างมากค่ะ ซึ่งหลาย ๆ คนคงสนใจที่จะลงทุนในทองคำกันแล้วใช่ไหมคะ สำหรับนักลงทุนมือใหม่คงมีความสับสนไม่น้อยว่า ควรซื้อทองคำจริงหรือกองทุน แบบไหนดีกว่ากัน? คุณน้าขอเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการลงทุนในทองคำแท่งและกองทุนทอง เพื่อให้คุณได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นก่อนนะคะ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

ทองคำแท่งกองทุนทองคำ
ความหมายแร่โลหะที่มีมูลค่าสูง ซึ่งผู้ผลิตจะนำแร่มาขึ้นรูปให้เป็นทองคำแท่ง เพื่อเพิ่มมูลค่าของแร่โลหะให้สูงขึ้นการลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ โดยมูลค่าของหน่วยลงทุนจะอิงกับราคาทองคำในตลาดโลก
ค่าใช้จ่ายทองคำแท่งจะไม่มีค่ากำเหน็จเวลาซื้อ-ขาย แต่จะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าบล็อกแทนค่ะ ซึ่งค่าบล็อกทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่า เป็นค่าแรงในการนำทองคำมาหลอมนั่นเอง โดยปกติแล้วค่าบล็อกจะอยู่ในช่วงราคา 100-400 บาท ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละร้านเป็นคนกำหนดกองทุนทองคำจะมีการเสียค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายแฝงค่ะ ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน โดยคุณสามารถดูค่าธรรมเนียมได้ที่หนังสือชี้ชวนของบลจ. ที่คุณให้ความสนใจ
เหมาะกับใคร– เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
– เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
– เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นของขวัญ เนื่องในโอกาสพิเศษ
– เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่
– เหมาะกับนักลงทุนที่มีต้นทุนต่ำ
– เหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้มาก จากความผันผวนของราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
– เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว

จากตารางจะเห็นได้ว่า การลงทุนในทองคำแท่งและกองทุนทองคำมีความแตกต่างกันตามเป้าหมายการลงทุนของแต่ละคนค่ะ ซึ่งหากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ คุณน้าขอแนะนำกองทุนทองคำ เพราะต้นทุนต่ำกว่าการลงทุนในทองคำแท่ง อีกทั้งยังมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลให้อีกด้วย

อย่างไรก็ดี การเลือกลงทุนแบบไหนดีนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ เพราะการลงทุนทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมาก

นอกจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว คุณสามารถลงทุนทองคำได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทองคำรูปพรรณ, หุ้นทองคำจากบริษัทเหมืองแร่ หรือแม้แต่การออมทอง เป็นต้น สำหรับใครที่ให้ความสนใจการออมทอง คุณน้าก็เคยเขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้วนะคะ สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย

📌 ข้อสังเกต หากคุณไม่อยากเสียค่าบล็อกทองคำแท่ง ทำได้ยังไง?

หากคุณไม่อยากเสียค่าบล็อกเพิ่มเติม คุณสามารถซื้อทองคำได้ตั้งแต่ 5 บาทขึ้นไป แต่ถ้าซื้อทองคำแท่งปั๊มโลโก้ คุณจะต้องเสียค่าบล็อก โดยไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ ค่ะ


5 เกณฑ์การพิจารณากองทุนทองคำที่ดี มีอะไรบ้าง?

5 เกณฑ์การพิจารณากองทุนทองคำที่ดี มีอะไรบ้าง?

ก่อนที่เราจะไปดู 6 กองทุนทองคำที่น่าซื้อ ในปี 2567 นี้ คุณน้าขอยก 5 เกณฑ์การพิจารณากองทุนทองคำที่ดี มีอะไรบ้าง? เพื่อช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถพิจารณาการเลือกกองทุนทองคำได้ดียิ่งขึ้น

1. ประเภทและระดับความเสี่ยงของกองทุน

ปัจจัยแรกที่นักลงทุนมือใหม่ควรให้ความสำคัญ คือ ประเภทและระดับความเสี่ยงของกองทุน เนื่องจากในแต่ละกองทุนจะมีกลยุทธ์ในการบริหารที่แตกต่างกัน ซึ่งนักลงทุนควรศึกษาเป้าหมายของตนเอง ก่อนตัดสินใจว่าประเภทการลงทุนแบบไหนเหมาะกับคุณ รวมทั้งความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้นั้นมากน้อยเพียงใด โดยปกติแล้ว กองทุนส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนแบบ Passive หรือกองทุนรวมที่เน้นการลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) ให้ได้มากที่สุดค่ะ 

ในขณะที่กองทุนแบบ Active จะเน้นกลยุทธ์ที่สร้างผลตอบแทนให้ชนะดัชนีชี้วัด (Benchmark) ทำให้ผู้จัดการกองทุนจะต้องปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้สามารถเอาชนะตลาดได้ ด้วยเหตุนี้เอง กองทุนประเภทนี้จึงมีความเสี่ยงและอัตราค่าธรรมเนียมที่มากกว่ากองทุนแบบ Passive 

โดยคุณสามารถศึกษาประเภทและระดับความเสี่ยงของกองทุนได้ที่หนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet) ของแต่ละกองทุนได้เลยค่ะ

2. นโยบายป้องกันความเสี่ยงของกองทุนรวม

ปัจจัยต่อมาที่นักลงทุนมือใหม่ควรให้ความสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือ นโยบายป้องกันความเสี่ยงของกองทุนรวม ซึ่งปกติแล้ว กองทุนรวมจะแบ่งออกเป็นนโยบายป้องความเสี่ยงค่าเงิน (Hedge) และนโยบายไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedged) ซึ่งนโยบายทั้ง 2 ประเภทนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกองทุนเลยค่ะ 

โดยปกติแล้วทองคำจะมีการซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐใช่ไหมคะ และหากคุณต้องการแลกเงินจากดอลลาร์สหรัฐกลับมาเป็นเงินไทย คุณจะต้องดูอัตราการแลกเปลี่ยนระหว่างคู่เงิน ทำให้เห็นได้ว่า อัตราการแลกเปลี่ยนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

ดังนั้น นโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedge) และนโยบายไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedged) จะส่งผลกระทบต่ออัตราการแลกเปลี่ยนและการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกัน หากคุณคาดการณ์ว่า เงินบาทอ่อนค่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าในอนาคต การเลือกกองทุนที่มีนโยบายไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedged) จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าค่ะ แต่หากคุณไม่อยากรับความเสี่ยงใด ๆ จากค่าเงิน คุณควรเลือกกองทุนที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedge) ก็จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่านั่นเอง

3. การลงทุนขั้นต่ำ

มาต่อกันที่ปัจจัยที่ 3 ที่นักลงทุนมือใหม่ควรศึกษานั่นก็คือ การลงทุนขั้นต่ำ ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติเด่นของกองทุนเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้ว กองทุนจะกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำไว้ที่ 1-10,000 บาท ทำให้เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการลงทุนโดยไม่ใช้เงินทุนมากนัก

สำหรับการเลือกว่าจะลงทุนขั้นต่ำในจำนวนเงินเท่าไหร่ดี คุณน้าขอแนะนำว่า คุณควรประเมินจำนวนเงินเย็นที่คุณสามารถนำมาลงทุนได้ โดยที่ไม่เดือดร้อนการดำเนินชีวิตของคุณ

4. ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายแฝง

แม้ว่ากองทุนทองคำจะกำหนดเงินลงทุนค่อนข้างต่ำ แต่สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายแฝงของกองทุนค่ะ เนื่องจากกองทุนจะมีผู้จัดการกองทุนที่เข้ามาบริหารจัดการกองทุนให้กับเรา ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งตรงนี้ถือเป็นส่วนที่สร้างความแตกต่างให้กับแต่ละกองทุน ดังนั้น คุณควรพิจารณาผลตอบแทนกับค่าใช้จ่ายของกองทุนว่า มีความคุ้มค่าและเหมาะสมหรือไม่?

ปกติแล้ว ค่าธรรมเนียมจะประกอบไปด้วย 4 ประเภท ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายหลักทรัพย์ของกองทุน, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ของเงินปันผล และค่าธรรมเนียม เมื่อคุณทำการย้าย, โอน หรือสับเปลี่ยนกองทุน โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดของค่าธรรมเนียมได้ที่นี่เลยค่ะ

5. ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีขึ้นไป 

มาที่ปัจจัยสุดท้ายที่นักลงทุนมือใหม่ควรพิจารณา นั่นก็คือ ผลตอบแทนย้อนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสะท้อนได้ว่า ผู้จัดการกองทุนนั้นมีความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ดีหรือไม่? ซึ่งการดูผลตอบแทนย้อนหลังควรดูตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปค่ะ


แนะนำ 6 กองทุนทองคำ ที่น่าซื้อเก็บ กองไหนดี? ปี 2567

แนะนำ 6 กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567

ในปัจจุบันมีกองทุนไทยที่มีนโยบายการลงทุนในทองคำมากถึง 30 บลจ. เลยค่ะ ซึ่งคุณน้าขอแนะนำ 6 กองทุนทองคำ ที่น่าเก็บ กองทุนไหนดี? ปี 2567 โดยคุณน้าใช้เกณฑ์การพิจารณาที่กล่าวไปข้างต้น โดยแต่ละกองทุนมีรายละเอียด ดังนี้


กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เฮดจ์ : KF-HGOLD

กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567 : KF-HGOLD
  • นโยบายของกองทุน : ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีชื่อว่า SPDR Gold Trust เพื่อให้ผลตอบแทนของกองทุนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ  หลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว
  • ความเสี่ยงของกองทุน : ระดับ 8 
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยง : มี (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • การซื้อขั้นต่ำ : 500 บาท
  • ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม : 0.96% ต่อปี
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี : +23.81%

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ : SCBGOLD

กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567 : SCBGOLD
  • นโยบายของกองทุน : ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำต่างประเทศ หรือ SPDR Gold Trust เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่ง หลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว
  • ความเสี่ยงของกองทุน : ระดับ 8 
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยง : ไม่มี
  • การซื้อขั้นต่ำ : 1 บาท
  • ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม : 0.44% ต่อปี
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี : +26.05%

กองทุนเปิดเคเคพี โกลด์ ชนิดทั่วไป : KKP GOLD

กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567 : KKP GOLD
  • นโยบายของกองทุน : ลงทุนในหน่วยการลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีชื่อว่า SPDR Gold MiniShares Trust เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่ง หลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว
  • ความเสี่ยงของกองทุน : ระดับ 8 
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยง : มีนโยบายป้องกันความเสี่ยง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ดูแลกองทุน
  • การซื้อขั้นต่ำ : 1,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม : 0.54% ต่อปี
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี : +22.55%

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ : BGOLD

กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567 : BGOLD
  • นโยบายของกองทุน : ลงทุนในหน่วยการลงทุนของ SPDR Gold Trust เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่ง หลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว
  • ความเสี่ยงของกองทุน : ระดับ 8 
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยง : มีนโยบายป้องกันความเสี่ยง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ดูแลกองทุน
  • การซื้อขั้นต่ำ : 500 บาท
  • ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม : 0.54% ต่อปี
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี : +24.18%

กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH : TGoldRMF-UH

กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567 : UH TGoldRMF-UH
  • นโยบายของกองทุน : ลงทุนในทองคำแท่ง (Gold Bullion) ในต่างประเทศเป็นหลัก เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่ง หลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนแล้ว
  • ความเสี่ยงของกองทุน : ระดับ 8 
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยง : ไม่มี
  • การซื้อขั้นต่ำ : 1 บาท
  • ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม : 0% ต่อปี
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี : +24.05%

กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล : UOBSG-N

กองทุนทองคำ น่าเก็บเข้าพอร์ต ปี 2567 : UOBSG-N
  • นโยบายของกองทุน : ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust ที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลก 
  • ความเสี่ยงของกองทุน : ระดับ 8 
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยง : มีนโยบายป้องกันความเสี่ยง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ดูแลกองทุน
  • การซื้อขั้นต่ำ : ไม่มีขั้นต่ำ
  • ค่าใช้จ่ายของกองทุนรวม : 0.96% ต่อปี
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี : +18.16%


ข้อดี-ข้อเสียของกองทุนทองคำ

ข้อดี

  • ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ทองคำสามารถชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
  • ทองคำมีสภาพคล่องสูง
  • สามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต้นต่ำได้

ข้อเสีย

  • ไม่ค่อยมีการจ่ายเงินปันผล
  • มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายแฝง
  • มีระดับความเสี่ยงค่อนข้างสูง


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกองทุนทองคำ

กองทุนทองคำ คืออะไร?

กองทุนทองคำ คือ การลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ

กองทุนทองคำ กองไหนดี 2567

  • กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เฮดจ์ : KF-HGOLD
  • กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ : SCBGOLD
  • กองทุนเปิดเคเคพี โกลด์ ชนิดทั่วไป : KKP GOLD
  • กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ : BGOLD
  • กองทุนเปิดธนชาตทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-UH : TGoldRMF-UH
  • กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล : UOBSG-N

นักลงทุนมือใหม่ลงทุนทองคำแบบไหนดี?

คุณน้าขอแนะนำนักลงทุนมือใหม่ลงทุนทองคำแบบกองทุนรวมค่ะ เพราะต้นทุนในการลงทุนนั้นค่อนข้างต่ำกว่าทองคำแท่งค่ะ อีกทั้งยังมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลให้อีกด้วย


สรุปกองทุนทองคำ น่าซื้อเก็บไหม?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า กองทุนทองคำเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ เพราะในปัจจุบันทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่มาแรงเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณน้าขอแนะนำว่า คุณควรมีกองทุนทองคำติดพอร์ตไว้ค่ะ เพราะสามารถกระจายความเสี่ยงได้ดี อีกทั้งนักลงทุนมือใหม่ยังสามารถลงทุนในจำนวนเงินขั้นต่ำที่ไม่สูงมากนักและสามารถซื้อขายผ่านออนไลน์ได้ เรียกได้ว่า สะดวกเป็นอย่างมากค่ะ 

อย่างไรก็ดี การลงทุนทองคำก็ถือว่ามีความเสี่ยงสูงเช่นกันนะคะ หากคุณไม่ศึกษาข้อมูลให้ดี คุณอาจพลาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าได้ค่ะ เพราะกองทุนทองคำมีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้น คุณควรเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนที่ได้รับกับค่าธรรมเนียมให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุน ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ


ขอบคุณข้อมูลจาก : SCB, Krungsri, The Standard, Finnomena และประชาชาติธุรกิจ


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

khunnaphatrade
khunnaphatrade
Recent Post
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งไม่มีมีข่าวสำคัญ สำหรับวันนี้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปที่บริเวณ 2,660-2,670 ดอลลาร์

รีวิว Titan FX เปิดทุกคุณสมบัติที่ควรรู้
รีวิว Titan FX เปิดทุกคุณสมบัติที่ควรรู้ ปี 2024

กลับมาพบกับคุณน้ารีวิวกันอีกแล้วนะคะ ในวันนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปอ่านรีวิวโบรกเกอร์ Titan FX ในทุกคุณสมบัติที่เทรดเดอร์ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาต, ประเภทบัญชี, ค่าสเปรด, การฝากถอนเงิน รวมถึงจุดเด่นและจุดแข็งของ Titan FX กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันเลย!