ธนาคารโลก หรือ World Bank ตัดสินใจยุติการให้ความช่วยเหลือทั้งหมดกับอัฟกานิสถาณ หลังจากที่กลุ่มตาลีบันเข้าทำการยึดประเทศ โดยมีความกังวลว่าการเข้ายึดครองประเทศของกลุ่มตาลีบันในครั้งนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และที่เลวร้ายที่สุดคือต่อสิทธิสตรีในประเทศ
การตัดสินใจยุติการให้ความช่วยเหลือนี้มีเหตุมาจาก IMF ระงับการจ่ายเงินให้กับอัฟกานิสถาณ อีกทั้งฝ่ายบริหารภายใต้การนำของรัฐบาล Joe Biden ยังได้แช่แข็งทรัพย์สินของธนาคารกลางอัฟกานิสถาณที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
โดยโฆษกของ World Bank ได้กล่าวว่า “ทางเราได้หยุดการสนับสนุนทั้งหมดที่มีให้ประเทศอัฟกานิสถาณ และติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตามนโยบายและขั้นตอนภายในของเรา”
“เราจะหารืออย่างใกล้ชิดกับประชาคมระหว่างประเทศและพันธมิตรด้านการพัฒนาต่อไป เรากำลังสำรวจวิธีที่เราสามารถมีส่วนร่วมกับพันธมิตรของเราอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาผลประโยชน์จากการพัฒนาที่ได้มาอย่างยากลำบากและสนับสนุนผู้คนในอัฟกานิสถาณต่อไป”
นับตั้งแต่ปี 2545 ที่ World Bank ได้ทุ่มเงินกว่า $5.3 พันล้านเพื่อปรับโครงสร้างและพัฒนาหลายๆ โปรเจ็คในประเทศอัฟกานิสถาณ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของ World Bank ได้กล่าวว่าทีมที่อยู่ในกรุงคาบูลและครอบครัวของพวกเขาได้อพยพจากอัฟกานิสถาณไปยังประเทศปากีสถานได้อย่างปลอดภัย
โดยการตัดสินใจของ World Bank ที่ยุติการจ่ายเงินให้กับอัฟกานิสถาณนั้นเป็นผลกระทบทางการเงินล่าสุดที่อัฟกานิสถาณได้รับ และอาจจะไม่ใช่ผลกระทบสุดท้ายหากสถานการณ์ในประเทศยังไม่ดีขึ้น
ในสัปดาห์ที่แล้ว IMF ได้ประกาศว่าอัฟกานิสถาณไม่มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมการกู้ยืมอีกต่อไป ซึ่งทางโฆษกของ World Bank ได้กล่าวว่าที่ทำเช่นนี้เพราะ “ขาดความชัดเจนในประชาคมระหว่างประเทศ” ในการยอมรับรัฐบาลในอัฟกานิสถาณ