สำหรับการเทรดหรือตลาดการลงทุน การใช้ Indicator ถือว่าเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนนิยมใช้กัน เนื่องจากต้องการดูแนวโน้มและวิเคราะห์ตลาดได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ วันนี้คุณน้าเลยอยากพาทุกคนมารู้จัก Indicator 6 ประเภทที่เป็นที่นิยมของเทรดเดอร์
Indicator คืออะไร ?
สำหรับการเทรดหรือตลาดการลงทุน การใช้ Indicator ถือว่าเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนนิยมใช้กัน เนื่องจากต้องการดูแนวโน้มและวิเคราะห์ตลาดได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ Indicator มากขึ้นได้ในบทความนี้

6 ประเภท Indicator
1.Trend Indicator (ตัวบอกเทรนด์, แนวโน้ม)
Indicator เหล่านี้ช่วยระบุทิศทางของแนวโน้มตลาด ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้น (ขาขึ้น) หรือขาลง (ขาลง)
ตัวอย่าง Indicator บอกเทรนด์ยอดฮิต ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) ดัชนีทิศทางเฉลี่ย (ADX) และ Parabolic SAR

2.Oscillators (ออสซิลเลเตอร์)
ออสซิลเลเตอร์จะวัดโมเมนตัมหรือภาวะซื้อเกิน/ขายเกินของตลาด Indicator ประเภทนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นหรือการอ่อนตัวของตลาด
ตัวอย่าง Indicator ประเภทออสซิลเลเตอร์ยอดนิยม ได้แก่ Relative Strength Index (RSI), Stochastic Oscillator และ MACD (Moving Average Convergence Divergence)

3.Volume Indicators (ตัวบ่งชี้ปริมาณ)
Indicator เหล่านี้วิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายซึ่งสามารถให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับการเข้าซื้อขายสินทรัพย์ว่ามี Volume มากน้อยแค่ไหน
ตัวอย่าง Volume Indicators ยอดฮิต ได้แก่ On-Balance Volume (OBV), Chaikin Money Flow และ Volume Weighted Average Price (VWAP)

4.Volatility Indicators (ตัวบ่งชี้ความผันผวน)
Indicator ตัวนี้จะช่วยวัดความผันผวนและจะวัดอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาด ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการระบุการทะลุที่อาจเกิดขึ้นหรือช่วงเวลาของการรวมบัญชี
ตัวอย่าง Volatillity Indicator ยอดนิยม ได้แก่ Bollinger Bands, Average True Range (ATR) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเป็นตัวบ่งชี้ความผันผวนทั่วไป

5.Support and Resistance Indicators (ตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้าน)
Indicator เหล่านี้ระบุระดับราคาสำคัญที่ตลาดได้แสดงแนวรับหรือแนวต้านในอดีต
ตัวอย่าง Support and Resistance Indicators ยอดฮิต ได้แก่ Pivot Points ระดับ Fibonacci Retracement และ Donchian Channels

6.Momentum Indicators (ตัวบ่งชี้โมเมนตัม)
ตัวบ่งชี้โมเมนตัมประเมินความเร็วและความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา ช่วยให้ผู้ค้าระบุเมื่อสินทรัพย์ถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป
ตัวอย่าง Indicator ที่บอกโมเมนตัมยอดนิยม ได้แก่ Moving Average Convergence Divergence (MACD), Relative Strength Index (RSI) และ Rate of Change (ROC)

สรุป
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นนะคะ ในโลกการลงทุนยังมีอินดิเคเตอร์ประเภทอื่น ๆ อีกมากมายสำหรับเทรดเดอร์เลยค่ะ สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องรู้ว่า Indicator ที่แตกต่างกันมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน และมักจะเป็นประโยชน์ในการใช้ตัวบ่งชี้ร่วมกันเพื่อทำการตัดสินใจซื้อขายเพื่อให้ได้จุดเข้าออเดอร์ที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการทำงานของตัวบ่งชี้แต่ละตัว และพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น สภาวะตลาด กรอบเวลา และการจัดการความเสี่ยง เข้าร่วมด้วยนะคะ

สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing
คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge