คงเรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ทั่วโลกต่างจับตามองแน่นอนค่ะ สำหรับสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่รัสเซียเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานยูเครนก่อนช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกได้ว่าสร้างผลกระทบและความผันผวนไปยังหลายส่วนโดยเฉพาะในตลาดการลงทุนเป็นอย่างมาก
วันนี้คุณน้าพาเทรดเลยอยากนำเสนอในมุมมองผลกระทบทางฝั่งที่เป็นฝ่ายเปิดศึกสงครามอย่างรัสเซียบ้างว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
1.รัสเซียบาดเจ็บล้มตายสูง
รัสเซียนั้นไม่ค่อยได้มีการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตหรือผลกระทบทางด้านทางทหารมากนักค่ะ แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียคนหนึ่งกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ว่า
ทหารรัสเซีย 1,351 นายเสียชีวิตในสงคราม และบาดเจ็บ 3,825 คน
แต่ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ของยูเครนอ้างว่าทหารรัสเซียมากกว่า 15,000 นายถูกสังหารเลยค่ะ ในขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของ NATO เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตระหว่าง 8,000 ถึง 15,000 คนจากสงครามครั้งนี้
หากถูกต้อง ตัวเลขดังกล่าวจะทำให้รัสเซียเสียชีวิตจำนวนมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะเมื่อเทียบกับทหารโซเวียตเกือบ 15,000 นายที่เสียชีวิตระหว่างสงคราม 10 ปีในอัฟกานิสถานในทศวรรษ 1980 จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งทางรัสเซียนั้นใช้เวลาในการรุกรานภายใน 1 เดือนเศษเท่านั้น
2.ทำให้ยูเครนนั้นเกลียดรัสเซียเป็นอย่างมาก
ผลที่ตามมาอย่างหนึ่งของสงครามครั้งนี้ก็คือความเกลียดชังของทางฝั่งยูเครนที่มีต่อรัสเซียค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการทิ้งระเบิดในบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน รวมถึงโรงพยาบาลเด็กและแผนกสูติกรรมในมารีอูโปล เช่นเดียวกับโรงละครที่ประชาชนหลายครอบครัวกำลังใช้เป็นที่หลบภัย สิ่งเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นอาชญากรรมสงคราม
ประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelenskyy กล่าวว่า “เราจะไม่ให้อภัย เราจะไม่ลืม เราจะลงโทษทุกคนที่ก่อความทารุณในสงครามครั้งนี้บนดินแดนของเรา” ก่อนเสริมว่า “ไม่มีที่สงบสุขในโลกนี้เว้นแต่หลุมฝังศพเท่านั้น”
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียยกย่องความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม ภาษา และประวัติศาสตร์ระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่เขากลับเลือกที่จะสร้างสงครามแทนที่จะสร้างสัมพันธ์อันแนบแน่นให้ทั้ง 2 ประเทศ
และนอกจากนี้ปูตินได้ประณามชาวยูเครนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยย้ำถึงความเชื่อของเขาที่ว่ายูเครนไม่ใช่แม้แต่รัฐ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย หรือเป็นสิ่งที่รัสเซียสร้างมา
3.ความหายนะทางเศรษฐกิจ
เศรษฐกิจรัสเซียนั้นถูกคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในปีนี้ สถาบันการเงินระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของรัสเซียจะหดตัวมากถึง 15% ในปี 2565 เนื่องจากสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ค่ะ นอกจากนี้ยังคาดการณ์การลดลง 3% ในปี 2566 และเตือนในหมายเหตุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าสงคราม “จะล้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ 15 ปี” ซึ่งนับว่าน่ากลัวเป็นอย่างมากสำหรับประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียค่ะ
นักวิเคราะห์ที่ TS Lombard คาดการณ์ว่าพลเมืองรัสเซียจะพบกับ “ผลกระทบร้ายแรง” ต่อมาตรฐานการครองชีพจากภาวะถดถอยและอัตราเงินเฟ้อที่สูง อัตราเงินเฟ้อประจำปีอยู่ที่ 9.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเดือนมีนาคม และมี “ช่วงสิ้นปีที่เป็นไปได้ที่ 30-35%”
4.ยุโรปกำลังลดพลังงานของรัสเซีย
สงครามยังเร่งให้ยุโรปเปลี่ยนจากการนำเข้าพลังงานของรัสเซีย ส่งผลให้ประเทศที่ได้รับรายได้มหาศาลจากธุรกิจน้ำมันนั้นอาจจะรายได้หดหายได้ค่ะ
นอกจากนี้ที่ทางยุโรปทำท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 มูลค่า 11 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อนำก๊าซรัสเซียเข้าสู่ยุโรปมากขึ้น (ซึ่งสหรัฐฯ โปแลนด์ และยูเครนเตือนว่าจะเพิ่มความไม่มั่นคงด้านพลังงานของภูมิภาค) นั้นอาจจะชะงักได้
โดยปกติ สหภาพยุโรปซึ่งนำเข้าก๊าซประมาณ 45% จากรัสเซียในปี 2021 ได้ให้คำมั่นว่าจะลดการซื้อก๊าซของรัสเซียลง 2 ใน 3 ก่อนสิ้นปี และคณะกรรมาธิการยุโรปต้องการหยุดซื้อเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียก่อนปี 2030 อีกด้วยค่ะ
5.รัสเซียได้ทำให้ชาติตะวันตกรวมใจกัน
ต้องเท้าความก่อนเลยค่ะ ว่าในช่วงอายุ 22 ปีของปูตินหรือราว ๆ นั้นเขาได้พยายามที่จะทำให้ชาติตะวันตกอ่อนแอและพยายามชาติตะวันตกอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา (ด้วยการเลือกตั้งปี 2559) และยุโรป (ด้วยเงินทุนของฝ่ายการเมืองฝ่ายขวา) หรือเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การกล่าวหาว่าใช้สารกระตุ้นประสาทกับศัตรูส่วนตัวและการเมืองก็มีนะคะ
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคิดว่า ปูตินน่าจะคาดว่าการรุกรานยูเครนของเขาจะส่งผลกระทบต่อตะวันตก โดยประเทศต่าง ๆ ไม่สามารถเห็นด้วยกับการคว่ำบาตร หรือส่งอาวุธไปยังยูเครนได้ แต่ก็อย่างที่เห็นค่ะ ว่าปูตินคิดผิดในเรื่องนี้
“ปฏิกิริยาของชาวตะวันตกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้ เพราะมีความสามัคคีและมากกว่าที่ใคร ๆ ในรัสเซียกำลังเตรียมหรือเตรียมไว้ด้วยซ้ำ” Anton Barbashin นักวิเคราะห์การเมืองและผู้อำนวยการกองบรรณาธิการของวารสาร Riddle Russia กล่าวกับ CNBC