3 เหตุผลว่า ทำไมคุณควรลงทุนในอินเดีย

การลงทุนในประเทศอินเดีย
Table of Contents

หลายคนอาจเพิ่งจะได้ยินข่าวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ กันเลยนะคะกับเรื่องที่ประเทศอินเดียนั้น ขยับขึ้นแซงหน้าสหราชอาณาจักรโดยมาอยู่ในอันดับที่ 5 สำหรับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก เพราะอยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศมีความมั่นคงและก้าวหน้ามาก ไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศ 

ว่าแต่ประเทศอินเดียจะมีเศรษฐกิจและความเป็นมาอย่างไร? และตลาดไหนที่น่าลงทุนบ้าง? มาอ่านไปพร้อมกันดีกว่าค่ะ 

ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศอินเดีย

อินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกค่ะ เพราะในปัจจุบันอินเดียมีประชากรเกือบ 1.6 ล้านล้านคน (ถ้าจะเอาเป็นตัวเลขเป๊ะ ๆ โดยการเก็บข้อมูลจากทาง Worldometer จำนวนประชากรอยู่ที่ 1,590,510,265,656 ในปี 2022) ซึ่งถ้าหากอิงตามข้อมูลของ Worldometer จะพบว่า จำนวนประชากรในประเทศอินเดียแซงหน้าจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ต้องเท้าความก่อนเลยค่ะว่า ตั้งแต่อินเดียได้เป็นเอกราชในปี พ.ศ. 2490 ถึง พ.ศ. 2534 เนี่ย ทางรัฐบาลได้มีการส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจแบบกีดกัน โดยมีการแทรกแซงของรัฐเป็นเนือง ๆ หรือถ้าพูดให้เข้าใจ ก็คือ รัฐจะแทรกแซงเพื่อพยายามมีส่วนร่วมด้วยในระบบเศรษฐกิจกับหลายอุตสาหกรรม รวมถึงเข้าควบคุมนั่นเอง โดยลักษณะนี้เรียกได้ว่า เป็น Dirigism ซึ่งในช่วงนั้นเศรษฐกิจอินเดียเลยไม่ได้ผงาดเท่าที่ควร แต่พอสิ้นสุดสงครามเย็นและวิกฤตดุลการชำระเงินเฉียบพลันในปี 2534 แล้ว จึงเกิดความเสรีทางเศรษฐกิจในประเทศอินเดียขึ้น โดยนับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 21 การเติบโตของ GDP เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 6% ถึง 7% เลย และตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2561 อินเดียเป็นเศรษฐกิจหลักที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก แซงหน้าจีนอีกด้วยค่ะ 


ความก้าวหน้าครั้งสำคัญของอินเดีย

อย่างที่ได้กล่าวไปว่า อินเดียเป็นประเทศที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วจนในปีนี้สามารถแซงหน้าสหราชอาณาจักรได้ นับว่าเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของอินเดีย นอกจากนี้ คุณ Uday Kotak ซีอีโอของ Kota Mahindra Bank ก็ได้กล่าวผ่าน Twitter โดยสามารถแปลเป็นไทยได้ว่า  

“นับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจสำหรับอินเดีย ที่สามารถเอาชนะสหราชอาณาจักรผู้ที่เคยเป็นผู้ปกครองอาณานิคมของเราได้ โดยเราเอาชนะในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 5: อินเดีย 3.5 ล้านล้าน เทียบกับ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของสหราชอาณาจักร แต่การตรวจสอบความเป็นจริงของจำนวนประชากร: อินเดีย: 1.4 พันล้าน เทียบกับ UK.068 พันล้าน ดังนั้น GDP ต่อหัวของเราอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์ เทียบกับ 47,000 ดอลลาร์ เรายังมีเรื่องต้องทำอีก… ลงมือทำกันเถอะ!”

หรือจะสรุปแบบง่าย ๆ ก็คือว่า ตอนนี้อินเดียสามารถเอาชนะสหราชอาณาจักรในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอันดับที่ 5 ได้แล้ว แต่ในส่วนของค่า GDP ต่อหัวยังคงน้อยกว่าอยู่ ต้องเร่งมือทำให้สูงขึ้นแล้ว ประมาณนี้ค่ะ

ที่มา : Uday Kotak Twitter



6 อันดับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก มีอะไรบ้าง? 

พูดถึงอินเดียไปแล้ว คราวนี้เรามาดูในส่วนของประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง 6 อันดับกันดีกว่าค่ะ ว่ามีประเทศอะไรบ้าง

6 อันดับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน อินเดีย

1. สหรัฐอเมริกา (USA) : ประเทศมหาอำนาจของโลกที่ครองอันดับ 1 ในด้านประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ด้วยค่ะ มีค่า GDP อยู่ที่ 26,695 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือครองอำนาจพื้นที่ในตลาดเศรษฐกิจโลกกว่า 24.1% เลยทีเดียว

2. จีน (China) : ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ได้อันดับ 2 ไปค่ะ มีค่า GDP อยู่ที่ 21,865 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และถือครองอำนาจพื้นที่ในตลาดเศรษฐกิจโลก 19.8%

3. ญี่ปุ่น (Japan) : ประเทศญี่ปุ่นที่ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นนั้นดีเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยค่ะ มีค่า GDP อยู่ที่ 5,291 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และถือครองอำนาจพื้นที่ในตลาดเศรษฐกิจโลก 4.8%

4. เยอรมัน (Germany) : ประเทศเยอรมันมีค่า GDP อยู่ที่ 4,565 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และถือครองอำนาจพื้นที่ในตลาดเศรษฐกิจโลก 4.1%

5. อินเดีย (India) : ประเทศอินเดียที่เพิ่งจะแซงหน้าสหราชอาณาจักรมาหมาด ๆ มีค่า GDP อยู่ที่ 3,894 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และถือครองอำนาจพื้นที่ในตลาดเศรษฐกิจโลก 3.5%

6. สหราชอาณาจักร (UK) : สหราชอาณาจักรที่เพิ่งจะถูกแย่งตำแหน่งอันดับ 5 ไปนั้นมีค่า GDP อยู่ที่ 3,687 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และถือครองอำนาจพื้นที่ในตลาดเศรษฐกิจโลก 3.3%

3 เหตุผลว่าทำไมคุณควรลงทุนในประเทศอินเดีย

เมื่อเห็นประวัติคร่าว ๆ ของอินเดียรวมถึงประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกกันไปแล้ว มาดูเหตุผลว่าทำไมคุณน้าถึงแนะนำให้ลงทุนในประเทศอินเดียกันค่ะ

3 เหตุผลว่าทำไมควรลงทุนในอินเดีย

1. มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเศรษฐกิจคงเห็นกันได้ชัดแล้วนะคะว่า ประเทศอินเดียนั้นมีความก้าวหน้าในด้านเศรษฐกิจและมีการผลักดันส่งเสริมมากขึ้นในปัจจุบันนี้ โดยทั้งรัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องล้วนต้องการให้ประเทศอินเดียก้าวหน้าจนขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจในตลาดโลก เพราะฉะนั้นตลาดการลงทุนในอินเดียก็นับว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ 

2. วิทยาศาสตร์และการแพทย์ ในประเทศอินเดียมีความก้าวหน้าในเรื่องของวิทยาศาสตร์และการแพทย์จนขึ้นชื่อเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว โดยเฉพาะในส่วนของการแพทย์ และทางรัฐบาลก็เล็งเห็นแล้วว่า ประเทศอินเดียนั้นขึ้นชื่อใน 2 ด้านนี้ จึงมีการผลักดันในส่วนของงบประมาณการพัฒนาและโรงเรียนมากขึ้น เตรียมดูนวัตรกรรมใหม่จากอินเดียได้เลยค่ะ

3. ประชากรอินเดียเพิ่มขึ้น ในปัจจุบันอินเดียมีประชากรสูงมากเป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของโลก (เนื่องจากตัวเลขยังไม่นิ่ง) และในปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ก็เป็นวัยเรียนค่ะ อินเดียยังคงส่งเสริมความรู้ต่าง ๆ เพื่อให้ประชากรที่จะเติบใหญ่มาเป็นวัยทำงานนั้นสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเมื่อประชากรเพิ่มขึ้น หมายความว่าแรงงานและพลังการผลิตก็จะมากขึ้นอีกด้วย 


ลงทุนในอินเดียได้อย่างไรบ้าง? 

อย่างที่รู้กันว่า เราไม่สามารถลงทุนในหุ้นของต่างประเทศที่ไม่ใช่ประเทศตามสัญชาติเกิดได้โดยตรง ดังนั้น คุณน้าเลยอยากแนะนำ 2 วิธีในการลงทุนในอินเดียค่ะ

1. ลงทุนผ่านนายหน้าหรือโบรกเกอร์ การลงทุนผ่านโบรกเกอร์ที่เปิดให้เทรดหุ้นและรองรับหุ้นในตลาดอินเดียนั้นเป็นหนึ่งช่องทางที่เราสามารถเลือกซื้อหุ้นอินเดียได้ค่ะ โดยเราสามารถเลือกซื้อเฉพาะหุ้นที่สนใจได้ เพราะโบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับออเดอร์จากเราและเข้าซื้อหุ้นผ่านตลาดหุ้นอินเดียให้ แต่ต้องศึกษาให้ดีนะคะว่าโบรกเกอร์ไหนบ้างที่รองรับในตลาดอินเดีย

2. กองทุนรวม กองทุนรวมมีหลายกองทุนมากที่เลือกลงทุนในอินเดียค่ะ โดยเราสามารถเลือกดูกองทุนรวมได้ว่ากองทุนใดบ้างที่มีการลงทุนในอินเดีย ซึ่งในไทยเองก็มีหลายกองทุนมาก ๆ เลยค่ะ

สรุป

อินเดียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจและน่าเข้าไปลงทุน แต่ก็ต้องทำการศึกษาข้อมูลในส่วนที่เราต้องการลงทุนให้ดีก่อนนะคะ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ แต่เราก็สามารถลดความเสี่ยงให้น้อยลงได้ โดยเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง และอย่าลืมบริหารจัดการเงินทุนให้ดีด้วยค่ะ


บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

คุณน้า
คุณน้า
คุณน้าเป็นเทรดเดอร์ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดต่าง ๆ ร่วม 10 ปี จึงอยากนำความรู้ที่มีมาแบ่งปันให้กับทุกคน
Recent Post
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567
วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 By คุณน้าพาเทรด

วิเคราะห์ทองคำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งไม่มีมีข่าวสำคัญ สำหรับวันนี้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปที่บริเวณ 2,660-2,670 ดอลลาร์

รีวิว Titan FX เปิดทุกคุณสมบัติที่ควรรู้
รีวิว Titan FX เปิดทุกคุณสมบัติที่ควรรู้ ปี 2024

กลับมาพบกับคุณน้ารีวิวกันอีกแล้วนะคะ ในวันนี้ คุณน้าจะพาทุกคนไปอ่านรีวิวโบรกเกอร์ Titan FX ในทุกคุณสมบัติที่เทรดเดอร์ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นใบอนุญาต, ประเภทบัญชี, ค่าสเปรด, การฝากถอนเงิน รวมถึงจุดเด่นและจุดแข็งของ Titan FX กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันเลย!