หุ้นเอเชียดิ่งลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทะยานสูงขึ้นในรอบหลายเดือน หลังจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ได้แสดงให้เห็นแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นของมาตรการกระตุ้นการเงินที่ลดลงในปีนี้
ดัชนี MSCI ที่กว้างที่สุดของเอเชียแปซิฟิกนอกประเทศญี่ปุ่นได้หล่นลงมา 0.63% ย้อนกลับไปสู่ระดับต่ำสุดในปี 2564 เมื่อเดือนที่แล้ว และหุ้น Blue Chip ของจีนร่วงลง 0.21% ออสเตรเลียร่วง 0.54% และฮ่องกงลดลง 0.45% ส่วน Nikkei ก็ลดลง 0.37% เช่นเดียวกัน
นาย Carlos Casanova นักวิเคราะห์เศรฐษกิจเอเชียอาวุโสแห่ง UBP กล่าวว่า แรงขับเคลื่อนหลักของตลาดในสัปดาห์นี้อ่อนแรกกว่าข้อมูลเศรษฐกิจในจีน ซึ่งทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนปรับลดการคาดการณ์ สถานการณ์ในอัฟกานิสถานและรายงานการประชุมของเฟด
รายงานการประชุมนโยบายเดือนก.ค.ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ ทำให้ FED คิดว่าเมื่อใดควรลดการซื้อพันธบัตรรายเดือน และแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่คาดว่าพวกเขาจะผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ได้หากเศรษฐกิจยังคงดีขึ้น
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตุว่าการแพร่ระบากของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าอาจชะลอการเปิดเศรษฐกิจใหม่อย่างเต็มรูปแบบเป็นการชั่วคราว และยับยั้งตลาดงานที่ใหญ่โตในความคิดของ FED
“จากการประชุมจะเห็นได้ว่า FED นั้นค่อนข้างที่จะหนักแน่นในหลายๆ เรื่อง แต่ก็ตระหนักดีว่ามันใกล้ที่จะถึงจุดที่ต้อง Tapering แล้ว” นักวิเคราะห์ของ ING เขียนไว้ในสรุป
และในตอนนี้ประเด็นความสนใจก็เบี่ยงมาอยู่ที่การประชุมวิจัยประจำปีของ FED ที่ Jackson Hole, Wyoming ในสัปดาห์หน้าที่จะทำนายถึงบอกถึงต่อไปของธนาคารกลาง
โดยนาย Casanona กล่าวว่า “เราจะมีทัศนวิสัยที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่องพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป มีความเสี่ยงกลับหัวที่อาจไปถึง 1.6% ถึง 1.8% จากระดับปัจจุบัน และสำหรับเอเชียแปซิฟิกนั่นหมายถึงการไหลออก”
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในตลาดซื้อขายเอเชีย ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีใกล้จะปิดที่ 1.2617% แต่กลับพุ่งขึ้นสูงถึง 1.300% ก่อนเปิดเผยรายงานการประชุม
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าเงินเทียบกับยูโร เยน และคู่แข่งอีกสี่ราย โดยไต่ขึ้นไปที่ 93.347 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน
การเพิ่มขึ้นนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ไม่ค่อยเสี่ยงนัก และเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
Wall Street ปิดตลาดด้วยราคาที่ต่ำกว่าหลังจากที่มีรายงานการประชุม รวมถึง DJAI ด้วยที่ลงไป 1.07% ในขณะที่ S&P500 ลงไป 1.07% และ Nasdaq Composite ที่ลงไป 0.89%
เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็ดึงราคาทองคำ จึงทำให้ราคาสปอตลดลง 0.15%